<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

3 วิธีสร้างเหรียญมีมง่าย ๆ บน BNB Chain แบบละเอียดทุกขั้นตอน มือใหม่ก็ทำได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ช่วงนี้กระแส BNB Chain กำลังมาแรงสุด ๆ หลังจากมีการประกาศ Roadmap ปี 2025 แถมล่าสุด CZ (Changpeng Zhao)อดีตผู้ก่อตั้ง Binance ยังออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับเหรียญมีมว่า “เหรียญมีมมันทำงานยังไง?” และ “จะสร้างมันขึ้นมาได้ยังไง?” ทำให้หลายคนเริ่มแสดงความสนใจ

ที่ฮือฮากว่านั้นคือ CZ ยังเปิดเผยชื่อสุนัขของตัวเองว่าชื่อ “Brocolli” ที่หลายคนคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ว่า อาจจะมีเหรียญมีมใหม่โผล่มาในตลาดหรือไม่ แม้ว่า CZ จะยืนยันว่าเขา จะไม่สร้างเหรียญมีมของตัวเอง ก็ตาม

แต่ไม่ว่า CZ จะทำหรือไม่ เหรียญมีมก็ยังคงเป็นกระแสที่มาแรงในโลกคริปโต และถ้าคุณเคยคิดอยากลองสร้างเหรียญมีมของตัวเอง BNB Chain เป็นหนึ่งในเครือข่ายที่น่าสนใจในช่วงนี้

ในบทความนี้ สยามบล็อกเชน จะพาไปรู้จักกับ แนวทางในการสร้างเหรียญมีมบน BNB Chain พร้อมขั้นตอนแบบละเอียดยิบที่เพื่อนสามารถนำไปใช้ได้จริงแบบม้วนเดียวจบ

แนวทางในการสร้างเหรียญมีม บน BNB Chain

เพื่อน ๆ สามารถสร้างเหรียญมีมได้หลากหลายวิธี เช่น

  1. ใช้ Bonding Curve Launchpad  เป็นระบบที่ช่วยให้เหรียญมีการกระจายตัวอย่างยุติธรรม และมีการกำหนดราคาตามเส้นโค้งอุปสงค์
  2. Prelaunch หรือการเปิดขายล่วงหน้า  ใช้แพลตฟอร์มเฉพาะทางอย่าง Pinksale เพื่อช่วยระดมทุนและสร้างชุมชนก่อนเปิดตัวจริง
  3. ตั้งค่ากลุ่มสภาพคล่อง (Liquidity Pool) เพื่อให้เหรียญของคุณ สามารถซื้อขายได้บนแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ เช่น PancakeSwap

วิธีที่ 1  ใช้ Bonding Curve Launchpad

Bonding Curve Launchpad คือแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ที่ให้ผู้ใช้งาน สามารถซื้อและขายโทเคนได้ตามกลไกราคาที่กำหนดเป็นเส้นโค้ง (Price Curve) วิธีนี้ช่วยให้เกิดการกระจายโทเคนที่ยุติธรรมและค้นหาราคาที่เหมาะสม 

ในตัวอย่างนี้ เราจะใช้แพลตฟอร์ม Four.meme เป็นตัวอย่าง เพื่อให้การสร้างเหรียญมีมเป็นเรื่องง่าย

ขั้นตอนที่ 1: เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน

เข้าไปที่เว็บไซต์ Four.meme แล้วเชื่อมต่อกระเป๋าเงินที่รองรับ BNB Chain เช่น Binance Wallet  หรือ Trust Wallet และตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีเงินทุนเพียงพอสำหรับค่าธรรมเนียม  เมื่อเชื่อมต่อกระเป๋าเงินแล้ว ให้คลิก สร้างโทเคน

ขั้นตอนที่ 2: กรอกรายละเอียดเหรียญ 

โดยกรอกข้อมูลที่จำเป็นใน หน้าสร้างโทเคน ดังต่อไปนี้

2.1 รายละเอียดโทเคน:

  • กรอกชื่อโทเคนและสัญลักษณ์ (เช่น MEMECOIN, MEME)
  • ใส่คำอธิบายสั้น ๆ ที่บอกถึงจุดเด่นหรือธีมของโทเคน

2.2 อัปโหลดโลโก้:

  • อัปโหลดรูปโลโก้ (ไฟล์ต้องไม่เกิน 5MB)

2.3 ข้อมูลโทเคน:

  • เลือกโทเคนที่ใช้คู่กับเหรียญของคุณ (เช่น BNB)
  • ใส่ลิงก์เว็บไซต์ และช่องทางโซเชียลมีเดีย (Twitter, Telegram) ได้ตามต้องการ ถ้ามี

2.4 แท็กโทเคน:

  • เลือก MEME เป็นแท็กโทเคน เพื่อจัดหมวดหมู่ให้ถูกต้อง

เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว ให้กดปุ่ม “Insufficient Assets” เพื่อดำเนินการต่อ

ขั้นตอนที่ 3: ลิสต์เหรียญ

ตอนนี้เหรียญจะถูกแสดงบนแพลตฟอร์ม เมื่อ Bonding Curve แตะไปถึง 100% ระบบจะสร้างกลุ่มสภาพคล่องบน PancakeSwap ให้โดยอัตโนมัติ

วิธีที่ 2: ใช้ Prelaunch (Pinksale)

อีกทางเลือกหนึ่งคือ การเปิดขายล่วงหน้า (Presale) ผ่าน Pinksale ซึ่งช่วยให้คุณสามารถ ระดมทุนและสร้างฐานชุมชน ก่อนที่เหรียญจะเข้าสู่ตลาด

ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบเหรียญของคุณ

เริ่มต้นให้เข้าไปที่แพลตฟอร์ม Pinksale และเชื่อมต่อกระเป๋าเงินของคุณ โดยใช้กระเป๋าเงินที่เข้ากันได้กับ BNB Chain เช่น Trust Wallet  จากนั้นเลือก “Launchpads” และกด “Create Presale”

หากมีเหรียญอยู่แล้ว ให้นำที่อยู่สัญญา (Contract Address) มากรอก หากไม่มี คุณสามารถสร้างโทเค็นใหม่ได้โดยตรงบนแพลตฟอร์ม

จากนั้นเลือกสกุลเงินที่จะใช้ระดมทุน เช่น BNB หรือ Stablecoinsโดยทำตามคำ แนะนำนี้

ต่อไป ให้เลือกตัวเลือกค่าธรรมเนียม และตัดสินใจว่าจะใช้ Auto-Listing (ระบบเพิ่มสภาพคล่องให้อัตโนมัติหลังจากการเปิดตัว) หรือ Manual Listing (คุณจัดการเพิ่มสภาพคล่องเอง) ตามที่ต้องการ 

ขั้นตอนที่ 2: กำหนดรายละเอียดการขายล่วงหน้า  (Presale) 

ในขั้นตอนนี้ คุณจะกำหนดพารามิเตอร์สำหรับ Presale โดยต้องกรอกรายละเอียดสำคัญดังนี้

  • Presale Rate: กำหนดอัตราการแจกจ่ายโทเคนต่อ 1 BNB (หรือเหรียญอื่น) ในช่วงพรีเซล
  • Whitelist Option: เปิดหรือปิดระบบ Whitelist หากคุณต้องการจำกัดผู้เข้าร่วม สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
  • Soft Cap และ Hard Cap:
    • Soft Cap คือยอดขั้นต่ำที่ต้องระดมทุนให้ถึง เพื่อเปิดตัวโทเคน
    • Hard Cap คือยอดสูงสุดที่ตั้งเป้าไว้
    • Soft Cap ต้องไม่น้อยกว่า 25% ของ Hard Cap
  • Refund Type: เลือกว่าจะให้คืนเงิน หรือเผาโทเคน (Burn) ถ้า Presale ไม่ถึง Soft Cap
  • Liquidity Allocation: กำหนดเปอร์เซ็นต์ของเงินที่ระดมได้ ที่จะนำไปเพิ่มสภาพคล่อง (ขั้นต่ำ 51%, สูงสุด 100%)
  • Listing Rate: กำหนดราคาของโทเคนใน Liquidity Pool โดยปกติราคานี้จะต่ำกว่า Presale Rate เพื่อให้เกิดการเปิดตัวที่แข็งแกร่ง
  • Start และ End Times: ตั้งเวลาที่พรีเซลจะเริ่มและสิ้นสุด (ต้องกำหนดเวลาเริ่มก่อนเวลาสิ้นสุด)
  • Liquidity Lockup Period: กำหนดระยะเวลาที่จะล็อกสภาพคล่องใน Pool (เป็นจำนวนวัน)
  • Vesting Schedule: หากต้องการปล่อยโทเคนให้ผู้ร่วมลงทุนเป็นรอบ ๆ สามารถตั้งค่าผ่าน Vesting Contributor

ตรวจสอบจำนวนโทเคนทั้งหมดที่ต้องใช้สำหรับการ Presale ซึ่งจะแสดงอยู่เหนือปุ่มนำทาง นอกจากนี้ คุณสามารถใช้ Pinksale Calculator เพื่อปรับแต่ง Tokenomics ให้เหมาะสม 

เมื่อกำหนดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กด “Next” เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป 

ขั้นตอนที่ 3: เพิ่มโลโก้และข้อมูลเว็บไซต์

อัปโหลดโลโก้ของเหรียญ รวมถึงกรอกข้อมูลลิงก์เว็บไซต์ และโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้องด้วย

ขั้นตอนที่ 4: ยืนยันและเปิดการขายล่วงหน้า (Presale)

ในขั้นตอนสุดท้าย ให้เพื่อน ๆ ตรวจทานรายละเอียดทั้งหมดที่คุณกรอกไว้ก่อนหน้านี้ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายในการแก้ไขข้อมูลต่าง ๆ 

หากทุกอย่างถูกต้องแล้ว ให้กด “Approve Spending Token” เพื่ออนุญาตให้ Pinksale ใช้โทเคนสำหรับ Presale จากนั้น ยืนยันธุรกรรมในกระเป๋าเงิน และกด “Submit” เพื่อดำเนินการสร้างการพรีเซลให้เสร็จสมบูรณ์

เมื่อส่งข้อมูลแล้ว กระเป๋าเงินของคุณจะขอให้ยืนยันค่าธรรมเนียมธุรกรรม หลังจากอนุมัติแล้ว การ Presale ของคุณจะ ออนไลน์บน Pinksale พร้อมให้ผู้ลงทุนเข้าร่วมโปรเจกต์

Pinksale จะแสดง ลิงก์ Presale ซึ่งคุณสามารถแชร์ให้ชุมชนของคุณ เพื่อเริ่มดึงดูดนักลงทุนได้ 

วิธีที่ 3: ตั้งค่ากลุ่มสภาพคล่อง (Liquidity Pool)

หากคุณต้องการให้เหรียญ สามารถซื้อขายได้อย่างอิสระ สามารถ ตั้งค่ากลุ่มสภาพคล่อง ด้วยตัวเอง

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมข้อมูลเหรียญ

ก่อนที่คุณจะเปิดตัวโทเคน ตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณได้กำหนดรายละเอียดสำคัญครบถ้วนแล้ว ได้แก่

  • ชื่อโทเคน (Token Name): เลือกชื่อที่เป็นทางการและจดจำง่ายสำหรับเหรียญมีมของคุณ
  • โลโก้โทเคน (Token Logo): อัปโหลดภาพความละเอียดสูง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
  • คำอธิบายโทเคน (Token Description): เขียนคำอธิบายที่กระชับและน่าสนใจ อธิบายจุดประสงค์, ประโยชน์ใช้สอย (Utility) และ ความโดดเด่นของโทเคน
  • จำนวนโทเคนทั้งหมด (Token Supply): กำหนดจำนวนโทเคนที่จะถูกสร้างขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานของ Tokenomics
  • การจัดสรรโทเคน (Token Allocation): วางแผนการกระจายโทเคน อย่างละเอียด เช่น
    • โควต้าสำหรับการขายสาธารณะ (Public Sale)
    • ส่วนของทีมพัฒนา (Team Reserves)
    • แรงจูงใจในระบบนิเวศ (Ecosystem Incentives)
  • ที่อยู่กระเป๋าเป้าหมาย (Designated Target Addresses): สร้างกระเป๋า 4-5 ใบ สำหรับใช้ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น
    • Liquidity Pool
    • Token Locking
    • Ecosystem Reserves
    • ค่าธรรมเนียมหรือรางวัลต่าง ๆ

ที่สำคัญควรใช้ กระเป๋าเงินที่รองรับ BNB Smart Chain เช่น Binance Wallet หรือ Trust Wallet เพื่อป้องกันปัญหาการใช้งาน

ขั้นตอนที่ 2: เลือก Meme Launchpad

เพื่อให้ง่ายต่อการ เปิดตัวโทเคน แนะนำให้ใช้แพลตฟอร์ม Four.Meme ซึ่งเราได้อธิบายวิธีการทำงานไว้ใน “วิธีที่ 1” แล้ว

นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม Four.Meme ยังมีทีม Business Development คอยให้คำแนะนำตลอดกระบวนการเปิดตัวโทเคน หากเพื่อน ๆ ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อทีมงานได้ที่

Telegram: @EddieFour
Email: [email protected]

ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าการกระจายเหรียญ

เมื่อมีการเปิดตัวโทเคน (Token Generation Event – TGE) เริ่มขึ้น โทเคนบางส่วน ควรถูกจัดสรรเป็นอุปทานหมุนเวียน (Circulating Supply) และจะถูกเพิ่มเข้าไปใน Liquidity Pool โดยอัตโนมัติ

  • ใช้แพลตฟอร์มอย่าง PancakeSwap หรือ Thena เพื่อสร้าง Liquidity Pool
  • แนะนำให้เลือก Single-Sided V3 Concentrated Liquidity Pool เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเงินทุนสูงสุด

การตั้งค่านี้ช่วยลด Slippage และทำให้ผู้ซื้อมีประสบการณ์การเทรดที่ดียิ่งขึ้น

ขั้นตอนที่ 4: ล็อกเหรียญและสภาพคล่อง

เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน และทำให้โปรเจกต์มีความมั่นคงในระยะยาว ควรล็อกโทเคนบางส่วน

  • จัดสรรโทเคนที่ล็อกไว้ ไปยังที่อยู่กระเป๋าที่กำหนดตาม Tokenomics
  • ใช้ แผนการปลดล็อก (Vesting Schedule) อย่างเป็นระบบ เช่น ทยอยปลดล็อกเป็นรายเดือนหรือรายปี
  • ใช้เครื่องมืออย่าง PinkLock เพื่อช่วยติดตามและบังคับใช้การล็อกโทเคนอย่างปลอดภัย

ขั้นตอนที่ 5: จัดการรายได้จากกลุ่มสภาพคล่อง

Liquidity Pool (LP) สามารถสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม แต่ในปัจจุบัน การกระจายรายได้นี้ ยังต้องดำเนินการด้วยตนเอง

  • ดึงรายได้จาก LP เป็นระยะ ๆ
  • กระจายรายได้ที่ดึงออกมา ไปยังที่อยู่กระเป๋าที่กำหนด เพื่อใช้ในการ ลงทุนต่อ หรือ ดำเนินงานของโปรเจกต์
  • หากต้องการความช่วยเหลือ ทีม Four.Meme มีบริการสนับสนุนในการจัดการกระบวนการนี้

ขั้นตอนที่ 6: ทำงานร่วมกับผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Makers) 

 ผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ Liquidity Pool ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรเลือก ผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ที่เชื่อถือได้ เพื่อทำหน้าที่ดังนี้

  • รักษาเสถียรภาพของราคา และช่วยลดความผันผวนของโทเคน
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพของ Liquidity Pool ด้วยการติดตามกิจกรรมในตลาด
  • วางแผนกลยุทธ์การดำเนินงาน ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและปริมาณการซื้อขายของโทเคน

ขั้นตอนที่ 7: ลิสต์เหรียญลงในฐานข้อมูล

เพื่อให้โทเคนของคุณเป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น แนะนำให้ลิสต์บนแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ

  • ลงทะเบียนโทเคน บนเว็บไซต์อย่าง CoinMarketCap หรือ ave.ai
  • ช่วยให้ กระเป๋าเงิน และ dApps สามารถดึงข้อมูลโทเคนไปใช้ได้อย่างราบรื่น
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือและปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานของผู้ถือโทเคน

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

  • จ้างทีมตรวจสอบสัญญา Smart contract เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน
  • สร้างชุมชนที่แข็งแกร่ง ผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น Telegram และ X (Twitter)
  • โปรโมทเหรียญ ผ่านการตลาดแบบไวรัล เช่น การแจก Airdrop หรือร่วมมือกับ อินฟลูฯ

สรุปแล้ว การสร้างเหรียญมีมบน BNB Chain ไม่ใช่เรื่องยาก หากทำตามแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อน ๆ สามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Bonding Curve, Prelaunch หรือ Liquidity Pool เพื่อให้เหรียญของเพื่อน ๆ ได้รับการยอมรับและมีสภาพคล่องที่ดี

ไม่ว่าแนวทางไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือ เพราะสุดท้ายแล้ว เหรียญมีมที่อยู่รอดได้นาน คือเหรียญที่สร้างมูลค่าและมีชุมชนที่แข็งแกร่ง 

ที่มา : bnbchain