นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant คาดการณ์ว่า Bitcoin อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ “Sell in May effect” แม้ว่าตลาดกระทิงจะยังไม่จบรอบก็ตาม
รายงานเปิดเผยว่า Bitcoin จะเคลื่อนไหวอยู่ในรูปแบบไซด์เวย์ตลอดช่วงฤดูร้อนของปีนี้ และจะค่อยๆ ดันราคาขึ้นไปในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีหลังจาก sell in may ผ่านพ้นไป
The Sell in May Effect คืออะไร?
The sell in May effect เป็นทฤษฏีที่มักใช้สื่อถึงช่วงระยะเวลาหนึ่งของตลาด โดยได้มีการระบุว่า กำไรที่ได้จากการเทรดในช่วง พ.ย.-เม.ย. จะมากกว่าช่วง พ.ค.-ต.ค. ส่งผลทำให้นักลงทุนตัดสินใจขายสินทรัพย์ในช่วงพฤษภาคม และกลับเข้ามาใหม่ในเดือนตุลาคม ซึ่งทฤษฏีนี้ถูกใช้กันมาแล้วเป็นเวลานานนับร้อยปี
แม้ทฤษฏีดังกล่าวมักเป็นการอ้างถึงตลาดหุ้น แต่บริษัทวิจัย K33 เผยว่า Bitcoin ให้อัตราผลตอบแทนที่เหมือนกันกับหุ้น โดยยกตัวอย่างว่า หากซื้อบิทคอยน์ช่วง ตุลาคมและขายในเดือนเมษายน ระหว่างปี 2019-2023 จะได้กำไรกว่า 1,449% กลับกันถ้าหากทำตรงกันข้ามจะขาดทุนถึง -29% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ดังนั้น ทางนักวิเคราะห์เชื่อมั่นว่าในช่วงท้ายของปีนี้ Bitcoin จะกลับมาพุ่งทะยานอีกครั้งแม้จะเจอกับเหตุการณ์ sell in may โดยชี้ให้เห็นว่า ไตรมาสสุดท้ายในปี 2013, 2016, 2017, 2020, 2021, 2023, และ 2024 Bitcoin มักจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
เขายังระบุอีกว่า Bitcoin อาจไม่ได้พบการปรับฐานอย่างรุนแรงในหลายเดือน หรือเป็นปี แต่เหตุการณ์เศรษฐกิจระดับมหภาคอาจยังคงส่งผลต่อภาพรวมของสินทรัพย์เสี่ยงเช่น Bitcoin
อย่างไรก็ตามหากเทียบกับขาขึ้นในวัฏจักรที่แล้วที่ Bitcoin พุ่งขึ้นมา 686% ในครั้งนี้ราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นมาจากการ halving เพียงแค่ 63% เพียงเท่านั้น ทำให้มันยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้มากกว่านี้ เพราะวัฏจักรขาขึ้นยังไม่จบลงอย่างสมบูรณ์
ที่มา : Cryptopotato