ผ่านไปแล้ว 1 เดือนหลังจาก Donald Trump สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และเริ่มต้นดำเนินนโยบายครั้งใหญ่ ซึ่งหลายอย่างส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี
เพียง 30 วันแรกของการดำรงตำแหน่ง Trump ได้แต่งตั้งผู้บริหารที่สนับสนุนคริปโตเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญในหน่วยงานกำกับดูแล นอกจากนี้เขายังจัดตั้ง Department of Government Efficiency (DOGE) องค์กรพิเศษที่ดำเนินงานชั่วคราว โดยมี Elon Musk รับหน้าที่เป็นผู้นำโดยพฤตินัย
ในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ Trump และ Musk ได้กล่าวว่า DOGE รวมถึงตัว Musk เอง จะเข้ามามีบทบาทเป็น “ฝ่ายสนับสนุนด้านเทคโนโลยี” ให้กับรัฐบาล เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และปรับโครงสร้างหน่วยงานของรัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ต่อไปนี้คือเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับวงการคริปโตที่เกิดขึ้นในช่วง 30 วันแรกของ Trump ในตำแหน่งประธานาธิบดี
20 ม.ค. — World Liberty Financial ของ Trump โกยเงินคริปโตมหาศาลในวันสาบานตน
วันแรกที่ Trump เข้ารับตำแหน่งเต็มไปด้วยคำสั่งบริหารมากถึง 42 ฉบับ แม้ว่าจะไม่มีฉบับใดที่เกี่ยวข้องกับคริปโตโดยตรง แต่ก็ไม่นานก่อนที่อุตสาหกรรมคริปโตจะได้รับความสนใจจากรัฐบาลใหม่
Trump สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว เหรียญมีม TRUMP บนเครือข่าย Solana ซึ่งพุ่งขึ้นแตะมูลค่าตลาด 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ก่อนจะร่วงลง 40% ในวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ Melania Trump ยังได้เปิดตัวเหรียญมีมของเธอเองในชื่อ MELANIA
ในวันสาบานตน World Liberty Financial (WLFI) ธุรกิจด้านการเงินแบบกระจายศูนย์ของครอบครัว Trump ได้เข้าซื้อคริปโตมูลค่ากว่า 47 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่าพอร์ตโฟลิโอของ WLFI เพิ่มขึ้นเป็น 326 ล้านดอลลาร์
20 ม.ค. — DOGE เจอคดีความทันที
เพียงวันแรกของการดำเนินงาน DOGE ก็ถูกฟ้องร้อง โดยกลุ่มผู้ฟ้องกล่าวหาว่ามีการละเมิด Federal Advisory Committee Act (FACA) ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานที่ปรึกษาของรัฐบาลต้องเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ
ผู้ฟ้องรวมถึงกลุ่มด้านความโปร่งใส เช่น Citizens for Responsibility and Ethics, Public Citizen และ Center for Biological Diversity
21 ม.ค. — Trump เปลี่ยนโครงสร้าง SEC ให้เอื้อต่อคริปโต
หนึ่งในคำสัญญาระหว่างการหาเสียงของ Trump คือการปฏิรูปหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินให้เป็นมิตรกับคริปโตมากขึ้น โดยเฉพาะ Securities and Exchange Commission (SEC)
Paul Atkins ได้รับการเสนอชื่อให้ขึ้นแทนที่ Gary Gensler ในตำแหน่งประธาน SEC ขณะที่รอการอนุมัติจากวุฒิสภา Mark Uyeda ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานรักษาการ โดยเขาแสดงจุดยืนสนับสนุนอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล และวิจารณ์การบังคับใช้กฎหมายของ SEC ในยุคของ Gensler
21 ม.ค. — SEC ตั้งคณะทำงานด้านคริปโต
SEC ได้ตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อพัฒนากฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโต โดยมี Hester Peirce ซึ่งเป็นคณะกรรมาธิการที่สนับสนุนคริปโต เป็นหัวหอกของโครงการ
Uyeda ระบุว่าเป้าหมายหลักของคณะทำงานคือ “การกำหนดแนวทางที่ชัดเจนสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต และสร้างกรอบการเปิดเผยข้อมูลที่เหมาะสม”
21 ม.ค. — Trump เปิดตัวโครงการ AI มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์
Trump เปิดตัวโครงการ Stargate ซึ่งเป็นแผนการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีบริษัทเอกชน เช่น OpenAI, SoftBank และ Oracle เข้าร่วมลงทุน คาดว่าจะสร้างงานมากกว่า 100,000 ตำแหน่ง ในสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม Musk ออกมาแสดงความเห็นว่าโครงการนี้ไม่มีเงินทุนเพียงพอ และอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
22 ม.ค. — Trump ให้อภัยโทษ Ross Ulbricht ผู้ก่อตั้ง Silk Road
หนึ่งในนโยบายที่เป็นที่ถกเถียงมากที่สุดของ Trump คือการอภัยโทษให้กับ Ross Ulbricht ผู้ก่อตั้งตลาดมืด Silk Road หลังจากที่เขาถูกจำคุกมาเกือบ 10 ปี
การตัดสินใจนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากกลุ่มที่ผลักดันการปฏิรูปเรือนจำ และผู้สนับสนุนคริปโตที่มองว่าโทษของเขาหนักเกินไป
23 ม.ค. — Trump ตั้งคณะทำงานเพื่อทำให้สหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางของคริปโต
Trump ลงนามคำสั่งบริหารเพื่อจัดตั้งคณะทำงานด้านคริปโต โดยมีเป้าหมายเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ของการสร้าง กองทุนสำรองคริปโตแห่งชาติ และร่างกฎระเบียบด้านคริปโต
คณะทำงานนี้จะประกอบด้วย รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง, อัยการสูงสุด, ประธาน SEC, ประธาน CFTC และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล แต่ที่น่าสนใจคือ ไม่ได้รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และ FDIC
27 ม.ค. – วุฒิสภาสหรัฐฯ รับรองรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัล
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติ 68 ต่อ 29 เสียงสนับสนุนการเสนอชื่อ Scott Bessent ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์มหาเศรษฐีให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง
เมื่อทรัมป์เลือก Bessent เป็นครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2024 Eleanor Terrett นักข่าวของ Fox Business กล่าวถึงเขาว่า “สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลอย่างมาก โดยเฉพาะ Bitcoin”
มีรายงานว่าเขากล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นกับการที่ประธานาธิบดียอมรับสกุลเงินดิจิทัล และผมคิดว่ามันเข้ากันได้ดีกับพรรครีพับลิกัน สกุลเงินดิจิทัลเป็นเรื่องของอิสรภาพ และเศรษฐกิจของสกุลเงินดิจิทัลจะคงอยู่ต่อไป”
Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple แสดงความยินดีกับเขาในโอกาส X:
2 ก.พ. – ทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้าที่ผลิตโดยเม็กซิโก แคนาดา และจีน
ตลาดตอบสนองอย่างรุนแรง โดยหุ้นเทคโนโลยีบางตัวทำลายสถิติใหม่ด้วยการขาดทุนในวันเดียวบนวอลล์สตรีท
ในที่สุด Trump ก็หยุดการขึ้นภาษีเม็กซิโกและแคนาดา แต่การเคลื่อนไหวดังกล่าวได้เรียกร้องกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของเขา ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากตลาดคริปโตยังเน้นย้ำว่าสินทรัพย์คริปโตมีความสัมพันธ์กับตลาดการเงินแบบดั้งเดิมมากขึ้น
3 ก.พ. – Trump ไล่หัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลการคุ้มครองผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. Trump ไล่ Rohit Chopra หัวหน้าสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคทางการเงิน (CFPB) ออก CFPB ทำหน้าที่กำกับดูแลภาคการเงินและมีเขตอำนาจศาลเหนือธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ และผู้ให้กู้เงินรายวัน นอกเหนือจากสถาบันแสวงหากำไรอื่นๆ
ในประกาศอย่างเป็นทางการ CFPB กล่าวว่า Bessent จะดำรงตำแหน่งรักษาการหัวหน้าหน่วยงานของรัฐบาลจนกว่าจะหาผู้มาแทนที่ได้
เหตุผลที่ชัดเจนเบื้องหลังการเคลื่อนไหวดังกล่าวยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่กว้างขึ้นเพื่อลดการกำกับดูแลอุตสาหกรรมการธนาคาร โดยก่อนหน้านี้ Musk ได้เรียกร้องให้ “ลบ” หน่วยงานดังกล่าว
7 ก.พ. — ประธาน CFTC ก้าวลงจากตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. Rostin Behnam อดีตประธาน CFTC ได้ประกาศวันสุดท้ายของเขาที่หน่วยงาน หลังจากดำรงตำแหน่งกรรมาธิการและประธานหน่วยงานกำกับดูแลของ CFTC มาเป็นเวลา 8 ปี Behnam กล่าวว่าเขาจะก้าวลงจากตำแหน่งก่อนหน้านั้น 1 เดือน เพื่อเปิดทางให้ประธานรักษาการคนใหม่เข้ามาแทนที่ จนกว่าจะมีการแต่งตั้งคนใหม่
Behnam เรียกร้องให้นักกฎหมายกำหนดแนวทางที่ชัดเจนสำหรับสกุลเงินดิจิทัล โดยกล่าวว่า “ยุคของสกุลเงินดิจิทัลได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่กฎเกณฑ์ของเราจะต้องจัดการกับแนวทางปัจจุบันของอุตสาหกรรมอนุพันธ์”
9 ก.พ. — Trump ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก ส่งผลให้ราคา Bitcoin ดิ่งลง
Trump ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 25% ทำให้ตลาดหุ้นและตลาดคริปโตได้รับผลกระทบอย่างหนัก Bitcoin ร่วงลงทันทีหลังการประกาศ และนักวิเคราะห์คาดว่าตลาดอาจเผชิญกับความผันผวนมากขึ้น หาก Trump ดำเนินมาตรการด้านภาษีเพิ่มเติมกับ EU และภาคพลังงาน
12 ก.พ. — สหรัฐฯ ทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวนักโทษกับรัสเซีย
สหรัฐฯ ทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวนักโทษกับรัสเซีย โดยปล่อยตัว Alexander Vinnik อดีตผู้ดำเนินการเว็บเทรดคริปโต BTC-e เพื่อแลกกับการปล่อยตัว Marc Fogel ครูชาวอเมริกันที่ถูกจำคุกในรัสเซีย
Vinnik เคยสารภาพผิดในข้อหาฟอกเงินผ่าน BTC-e ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางการเงินหลายคดี
12 ก.พ. – ประธานาธิบดีเสนอชื่อประธาน CFTC คนใหม่
เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ Behnam ก้าวลงจากตำแหน่ง ทรัมป์ได้เสนอชื่อ Brian Quintenz อดีตกรรมาธิการ CFTC และผู้บริหารของ Kalshi ซึ่งเป็นตลาดพนันอีเวนต์ ให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลคนใหม่
Quintenz ซึ่งเคยทำงานที่ a16z บริษัทเงินทุนเสี่ยงที่เป็นมิตรกับคริปโต คาดว่าจะนำการเปลี่ยนแปลงที่ดีมาสู่วงการคริปโต เนื่องจากเขาได้แถลงการณ์สนับสนุนคริปโตหลายครั้ง รายงานระบุว่าเขาได้นำเสนอเกี่ยวกับ Bitcoin และการเงินแบบกระจายอำนาจหลายครั้งในขณะที่อยู่ที่ CFTC
17 ก.พ. – DOGE จะเข้าแทรกแซง SEC
หลังจากมีการลดรายจ่าย เลิกจ้าง และปรับโครงสร้างหน่วยงานของรัฐบาลกลางอื่นๆ มากมาย DOGE ซึ่งอยู่ภายใต้การนำโดยพฤตินัยของ Musk กำลังมุ่งเป้าไปที่ SEC เป็นลำดับต่อไป
“พวกเขาอยู่ที่ประตูแล้ว” แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวในรายงานของ Politico เมื่อวันที่ 17 ก.พ.
บัญชีพันธมิตร DOGE บน X ซึ่งมีอยู่หลายสิบบัญชี ได้โพสต์เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลเชิงลึกที่เป็นไปได้เกี่ยวกับ “การค้นหาและแก้ไขการสูญเปล่า” ที่ SEC
19 กุมภาพันธ์ — วุฒิสภาสหรัฐฯ ยืนยันการเลือกรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของ Trump
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้ยืนยันให้มหาเศรษฐี Howard Lutnick เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์คนต่อไป
หลังจากมีการลงคะแนนเสียง 52 ต่อ 45 Lutnick ก็ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของบริษัทให้บริการทางการเงิน Cantor Fitzgerald ทันที แม้ว่าบริษัทของเขาจะถือหุ้นใน Tether ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกสกุลเงินดิจิทัลแบบเสถียร แต่ Lutnick กล่าวว่าเขาจะขายหุ้นในธุรกิจและการลงทุนส่วนตัวอื่นๆ ภายใน 90 วัน
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปกับ Trump?
แม้ว่าในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง Trump จะไม่ได้ประกาศนโยบายเกี่ยวกับคริปโต แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนแรก เขาได้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่ชัดเจนในการผลักดันให้สหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมคริปโต
ทั้งนี้ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากทรัมป์ที่สนับสนุนคริปโต ซึ่งหลายคนได้รับการแต่งตั้งไปแล้ว คาดว่าจะนำนโยบายที่เป็นมิตรมาใช้ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
เหล่าพันธมิตรของ Trump ในสภาคองเกรสกำลังเดินหน้าออกกฎหมายเกี่ยวกับ Stablecoin ขณะที่ในระดับรัฐ มีการผลักดันให้มี ทุนสำรอง Bitcoin เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจของรัฐต่างๆ
ที่มา: cointelegraph