Sam Bankman-Fried อดีตผู้บริหารเว็บเทรด FTX ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The New York Sun พร้อมเปิดเผยว่า คดีของเขาเป็นส่วนหนึ่งของ ‘การใช้อำนาจฟ้องร้องเกินขอบเขต’ ที่พบเห็นได้ในช่วงรัฐบาลของ โจ ไบเดน
การสัมภาษณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่ FTX เริ่มทยอยจ่ายหนี้คืนลูกค้า หลังตัวบริษัทเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดคริปโตเกือบล่มสลายในปี 2022 ทว่าจำนวนหนี้ที่จ่ายคืนกลับเป็นการคำนวนในระดับราคาของปี 2022 ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะเป็นจุดต่ำสุดแทนที่จะคิดจากราคาปัจจุบัน ส่งผลทำให้เจ้าหนี้ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ปัจจุบัน ตัวของ SBF ต้องโทษจำคุกเป็นเวลาถึง 25 ปี ในคดีการฉ้อโกงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ คริปโต ซึ่งปัจจุบันครอบครัวของเขาได้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกชายได้รับการอภัยโทษ จากรัฐบาลใหม่ของทรัมป์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการสนับสนุนคริปโต เห็นได้จากการปล่อยตัว Ross Ulbricht ผู้ก่อตั้งเว็บมืด Silk Road ในเวลา 2 วันเท่านั้นหลังทรัมป์รับตำแหน่ง
เป็นที่สังเกตว่าก่อนหน้านี้ SBF เคยเป็นผู้สนับสนุนใหญ่ของพรรคเดโมแครตและมีการบริจาคเงินให้เป็นจำนวนมาก แต่ในปัจจุบันเขากลับได้ย้ายข้างและออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลไบเดนว่า ในระยะหลังสร้างความเสียหายอย่างร้ายกาจ และร่วมงานด้วยอย่างยากลำบาก ทำให้ตัวเขาเริ่มหันมาสนับสนุนพรรครีพลับลิกันที่มีเหตุมีผลมากกว่านับตั้งแต่ปี 2022 พร้อมเอ่ยว่ามุมมองและตัวเขาในปัจจุบัน ไม่เหมือนกับอดีตที่ผ่านมา
SBF ยังกล่าวด้วยว่าทั้งตัวเขาและทรัมป์มีศัตรูคนเดียวกันคือ ผู้พิพากษา Lewis Kaplan ที่คุมคดีการฉ้อโกง FTX และคดีหมิ่นประมาทรัฐบาลกลางของทรัมป์ รวมไปถึง Danielle Sassoon อัยการรัฐบาลกลาง ที่เป็นคนฟ้อง SBF และเพิ่งลาออกหลังมีปัญหาขัดแย้งกับกระทรวงยุติธรรมภายใต้การดูแลของทรัมป์ ในเรื่องของการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์
อย่างไรก็ตาม SBF ไม่ใช่บุคคลเพียงคนเดียวที่รอคอยการอภัยโทษจากทรัมป์ ยกตัวอย่างเช่น Roger Ver หรือ “ Bitcoin Jesus” และ Virgil Griffith นักวิจัยของ Ethereum Foundation ที่ถูกจับในข้อหาให้ความรู้เรื่องด้านคริปโตให้แก่เกาหลีเหนือ
ที่มา : The Block