<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Binance US ลิสต์คู่เหรียญ XRP/USD ส่งสัญญาณบวกคดี Ripple อาจใกล้สิ้นสุดลง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Binance US ซึ่งเป็นสาขาย่อยในสหรัฐฯ ของแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอันดับ 1 ของโลกอย่าง Binance ได้ประกาศเปิดให้เทรดคู่เหรียญ XRP/USD  ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้ ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณบวกต่อเรื่องคดีความของ XRP ในสหรัฐฯ หลังจากที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนทางกฎหมายมาเป็นระยะเวลานาน

ย้อนกลับไปในช่วงต้นปี 2021 กระดานเทรด Binance US ได้ระงับการซื้อขาย XRP เนื่องจากการฟ้องร้องระหว่างสำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ (SEC) และ Ripple Labs บริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง XRP ในขณะนั้น แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชั้นนำอื่น ๆ ในสหรัฐฯ เช่น Coinbase, Crypto.com และ Bittrex ก็ได้ระงับการซื้อขาย XRP เช่นกัน

ต่อมา ในเดือนกรกฎาคม 2023 บริษัท Ripple ได้รับชัยชนะครั้งสำคัญในคดีความกับ SEC โดยศาลตัดสินว่าการขาย XRP ในตลาดรอง (Secondary Sales) ไม่ถือเป็น ‘หลักทรัพย์’ คำตัดสินนี้ ส่งผลให้แพลตฟอร์มชั้นนำหลายแห่งกลับมาเปิดให้บริการซื้อขาย XRP อีกครั้ง รวมถึง Binance US ที่กลับมาเปิดให้ซื้อขาย XRP ในคู่ XRP/ USDT

ล่าสุด Binance US ได้เพิ่มคู่เหรียญ XRP/USD แล้ว ทำให้ผู้ใช้ Binance ในสหรัฐฯ สามารถซื้อขาย XRP โดยตรงกับดอลลาร์  นอกเหนือจาก Binance US แล้ว แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอื่น ๆ ที่รองรับคู่ XRP/USD ได้แก่ Coinbase, Kraken, Bitfinex และ Crypto.com 

การกลับมาของคู่ XRP/USD บน Binance US ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าคดีความระหว่าง SEC และ Ripple อาจใกล้สิ้นสุดลงแล้ว

เรื่องนี้ยิ่งดูมีน้ำหนักขึ้นไปอีก เมื่อ Eleanor Terrett นักข่าวจาก Fox Business ออกมารายงานเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ว่า การต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนานหลายปีระหว่าง ก.ล.ต. สหรัฐฯ กับบริษัท Ripple Labs กำลังใกล้จะได้ข้อสรุป ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างเจรจารายละเอียดของคำตัดสินจากศาลแขวง ซึ่งออกมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม โดยแหล่งข่าววงในสองแหล่งยืนยันว่าการต่อสู้อันยาวนานนี้ อาจจะปิดฉากลงในไม่ช้า

Eleanor Terrett ยังเผยอีกว่า ข้อตกลงระหว่าง Ripple และ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ยังคงไม่ลงตัว เนื่องจาก Ripple กำลังต่อรองอย่างหนักในสองประเด็นหลัก ได้แก่ ค่าปรับจำนวน 125 ล้านดอลลาร์ และ คำสั่งห้ามขาย XRP ให้กับนักลงทุนสถาบันอย่างถาวร Ripple ต้องการเงื่อนไขที่ดีกว่านี้ ทำให้การเจรจายังดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้นและอาจใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

ที่มา: U.Today