บริษัท Strategy (ชื่อเดิม MicroStrategy) ได้เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 130 BTC มูลค่าประมาณ 10.7 ล้านดอลลาร์ ที่ราคาเฉลี่ย 82,981 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ระหว่างวันที่ 10-16 มีนาคม ตามรายงานที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ซึ่งเป็นการซื้อที่มีขนาดเล็กกว่าครั้งก่อน ๆ อย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบัน Strategy ถือครอง Bitcoin ทั้งหมด 499,226 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 41 พันล้านดอลลาร์ โดยราคาเฉลี่ยของการซื้ออยู่ที่ 66,360 ดอลลาร์ต่อเหรียญ รวมต้นทุนการซื้อที่ 33.1 พันล้านดอลลาร์
ทำให้บริษัทกลายเป็นหนึ่งในผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยถือครองมากกว่า 2.3% ของอุปทานทั้งหมดที่ 21 ล้านเหรียญ
“กลยุทธ์ของ Strategy ยังดำเนินต่อไป” หลังจากบริษัทประกาศแผนระดมทุน 21 พันล้านดอลลาร์ผ่านหุ้นบุริมสิทธิแบบถาวร STRK เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา และได้ขายหุ้น STRK ไปแล้ว 123,000 หุ้น มูลค่า 10.7 ล้านดอลลาร์ โดย ณ วันที่ 16 มีนาคม ยังคงมีหุ้นที่สามารถออกขายได้มูลค่า 20.99 พันล้านดอลลาร์
“Bitcoin กำลังเข้าสู่เกมระดับรัฐบาล” เมื่อ Michael Saylor ผู้ก่อตั้ง Strategy เข้าร่วมการประชุม Crypto Summit ของทำเนียบขาว ซึ่งเกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อจัดตั้ง U.S. Strategic Bitcoin Reserve
โดยรัฐบาลจะใช้ Bitcoin ที่ถูกยึดจากคดีความอาญาและแพ่งมูลค่าประมาณ 200,000 BTC (18 พันล้านดอลลาร์) เป็นกองทุนสำรอง พร้อมมอบหมายให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์พิจารณาแนวทางการสะสม Bitcoin เพิ่มโดยไม่เพิ่มภาระให้ผู้เสียภาษี
อย่างไรก็ตาม หุ้น MSTR ของ Strategy ยังคงเผชิญกับแรงกดดัน โดยร่วงลงเกือบ 50% จากจุดสูงสุดที่ 473.83 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาของ Bitcoin ลดลง 29% จากระดับสูงสุดที่ 109,000 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ต่ำกว่า 77,000 ดอลลาร์ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า หากตลาดเข้าสู่ช่วงขาลงยาวนาน บริษัทอาจต้องขาย Bitcoin บางส่วนออกมา
กระนั้น นักวิเคราะห์อย่าง Vetle Lunde จาก K33 Research ชี้ว่า ความกังวลนี้ “ไม่มีสาระสำคัญ” เพราะ Strategy ใช้โครงสร้างหนี้ระยะยาว 5-6 ปี และส่วนใหญ่ของเงินทุนมาจากการขายหุ้น มากกว่าหนี้สินโดยตรง “Strategy ยังไม่อยู่ในจุดที่ต้องเป็นผู้ขาย Bitcoin รายใหญ่ในเร็ว ๆ นี้”
ที่มา: TheBlock