<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Michael Saylor แนะสหรัฐฯ ซื้อ Bitcoin 5-25% ใน 20 ปี เพื่อทำให้เขาเป็นคนรวยที่สุดในโลก

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ไมเคิล เซย์เลอร์ (Michael Saylor) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Strategy ออกไอเดียสุดทะเยอทะยาน ในงานประชุม Crypto Summit เมื่อวันที่ 7 มีนาคม โดยเสนอให้รัฐบาลสหรัฐฯ ซื้อบิตคอยน์สะสม ระหว่าง 5% – 25% ของอุปทานทั้งหมด ภายใน 20 ปีข้างหน้า แนวคิดนี้กลายเป็นประเด็นร้อน โดยเฉพาะในชุมชน XRP ซึ่ง John Deaton ทนายความสายคริปโต ออกมาวิจารณ์ว่า Michael Saylor กำลังล็อบบี้รัฐบาลเพื่อทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก

รายงานเปิดเผยว่า ก่อนการประชุมในงาน Crypto Summit นั้น Michael Saylor ได้เสนอให้รัฐบาลจัดทำนโยบายเข้าซื้อบิตคอยน์ โดยแนะนำให้สหรัฐฯ ซื้อบิตคอยน์ สะสม ระหว่าง 1.05 ล้าน – 5.25 ล้าน BTC ในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า ซึ่งหากแนวคิดนี้เกิดขึ้นจริง มูลค่าของบิตคอยน์อาจพุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล และบริษัท Strategy ซึ่งปัจจุบันถือครองบิตคอยน์อยู่ 499,096 BTC ตามข้อมูลจาก Bitbo ก็จะได้ประโยชน์เต็ม ๆ

แต่การผลักดันให้รัฐบาลใช้เงินซื้อบิตคอยน์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ กำหนดให้ สภาคองเกรสเป็นผู้ควบคุมงบประมาณ ซึ่งหมายความว่า หากรัฐบาลต้องการเข้าซื้อบิตคอยน์จริง จะต้องได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรส 

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่า กลุ่มผู้สนับสนุนบิตคอยน์บางกลุ่ม กำลังหาช่องโหว่ทางกฎหมาย โดยร่างข้อเสนอคำสั่งบริหาร (executive order) ที่อาจเปิดทางให้รัฐบาลสามารถซื้อบิตคอยน์ได้ โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาจากสภาคองเกรสโดยตรง

ในการประชุมครั้งนี้ Michael Saylor ยังได้เสนอ กรอบการจำแนกประเภทของสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแล มีความชัดเจนในการควบคุมคริปโต โดยเขาแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ โทเคนที่ใช้ในการระดมทุน เช่น โปรเจกต์ ICO ที่ออกโทเคน เพื่อดึงดูดนักลงทุน , โทเคนที่อิงกับสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ เช่น Bitcoin ETF หรือ  Stablecoin , โทเคนที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรมและการชำระเงิน, โทเคนที่ใช้สำหรับการรักษามูลค่า ซึ่ง Michael Saylor มองว่า บิตคอยน์ควรถูกจัดอยู่ในกลุ่มนี้

ข้อเสนอนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ SEC และหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน มีแนวทางที่ชัดเจนว่า สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทใด ควรได้รับการพิจารณาเป็นหลักทรัพย์ (security) และประเภทใดเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity)

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากฝั่งชุมชน XRP เนื่องจากมีสมาชิกบางกลุ่ม เรียกร้องให้ปลด Michael Saylor ออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาทำเนียบขาว โดยมองว่า Michael Saylor กำลังแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง 

ซึ่งหนึ่งในคอมเมนต์ในโพสต์ของ John Deaton ระบุว่า “หากบิตคอยน์ จะกลายเป็นมาตรฐานระดับโลก ทำไมเราต้องให้คนที่ถือเหรียญจำนวนมากสุด เป็นผู้กำหนดทิศทางของตลาด?” 

ในขณะเดียวกัน บริษัท Strategy ยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตการลงทุนในบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทได้ประกาศแผนออกหุ้น Series A Perpetual Strife Preferred Stock จำนวน 5 ล้านหุ้น ภายใต้ Securities Act of 1933 โดยเงินที่ได้จากการขายหุ้นครั้งนี้ จะถูกนำไปใช้ใน การซื้อบิตคอยน์เพิ่ม และเป็นทุนหมุนเวียนของบริษัท

ที่มา : cryptopolitan