รายงานล่าสุดเผยว่า “ Bitcoin hashprice” หรือรายได้ต่อวันของนักขุดต่อหนึ่งหน่วยพลังประมวลผล (petahash/วินาที) ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ $48 แม้ว่าในช่วงเวลาเดียวกัน ค่าความยากในการขุด (mining difficulty) จะเพิ่มขึ้นกว่า 1.4%
CoinWarz ระบุว่า ค่าความยากของ Bitcoin ได้ไต่ระดับขึ้นไปสู่ 113.76 ล้านล้าน ที่บล็อก 889,081 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับความยาก 112.1 ล้านในรอบการปรับตั้งค่าความยากครั้งก่อน
ขณะเดียวกัน TheMinerMag รายงานว่า ราคาของ hashprice ที่ต่ำกว่า $50 กำลังสร้างปัญหาให้กับนักขุดที่ยังใช้เครื่องรุ่นเก่าอย่าง Antminer S19 XP และ S19 Pro เพราะรายได้จากการขุดนั้นลดลง แถมค่าธรรมเนียมในเครือข่ายก็ต่ำลงตามไปด้วย ทำให้รายรับที่ได้ไม่พอจ่ายค่าต้นทุน ส่งผลให้นักขุดหลายรายเริ่ม “ขาดทุน” และอาจต้องตัดสินใจปิดเหมือง หรือหยุดการขุดชั่วคราว เพื่อไม่ให้เจ็บหนักไปกว่านี้

รายงานวิจัยจากบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ JPMorgan เปิดเผยว่า บริษัทเหมืองขุด Bitcoin ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกกำลังเผชิญภาวะวิกฤต ซึ่งสูญเสียมูลค่าหุ้นรวมกันกว่า 22% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า การแข่งขันในการขุด Bitcoin กำลังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ network hashrate หรือพลังประมวลผลรวมของทั้งเครือข่าย Bitcoin ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทที่ยังอยู่รอด ต้องลงทุนมากขึ้น ทั้งในเรื่องเทคโนโลยี พลังงาน และเครื่องขุดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ยังสามารถสร้างกำไรและแข่งขันในตลาดที่ดุเดือดนี้ได้ต่อไป

ที่มา : Cointelegraph