Arthur Hayes อดีตซีอีโอของ BitMEX ออกโรงเตือนถึงความผันผวนรุนแรงของตลาด Bitcoin ที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยเขาระบุว่าราคา Bitcoin จำเป็นต้องยืนเหนือระดับ 76,500 ดอลลาร์จนถึงวันที่ 15 เมษายนนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะไม่มั่นคงเพิ่มเติมในตลาดคริปโต
คำเตือนของเขาเกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดเกิดแรงเทขาย ส่งผลให้ราคาของ Bitcoin ร่วงจากระดับสูงสุดที่ 88,500 ดอลลาร์ลงมาอยู่ที่ 82,000 ดอลลาร์ ขณะที่ Ethereum เองก็ได้รับผลกระทบ โดยราคาร่วงจาก 1,934 ดอลลาร์ ลงมาแตะ 1,797 ดอลลาร์
โดยแรงขายที่เกิดขึ้นนี้ มาพร้อมกับการประกาศมาตรการภาษีนำเข้าฉบับใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน โดยมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทั่วโลกที่อัตรา 10% และสูงกว่าสำหรับสินค้าจากจีน สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น มาตรการนี้มาพร้อมกับการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติของประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดการเงินและคริปโต
จากข้อมูลของ Glassnode ระบุว่าแม้แรงขายของ Bitcoin จะเริ่มอ่อนแรงลง แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณของการกลับตัวอย่างมั่นคง โดยโซน 76,000–80,000 ดอลลาร์ยังคงเป็นแนวรับสำคัญ ทว่าเครื่องมือวิเคราะห์บนเชน (on-chain) หลายตัวก็แสดงให้เห็นว่าการดีดกลับของราคาอาจเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ในขาลงที่ยืดเยื้อ
Hayes เชื่อว่าอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาชี้ชะตาว่าตลาดจะเข้าสู่เสถียรภาพหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เขายังคงมองบวกในระยะยาว โดยคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจพุ่งทะลุ 250,000 ดอลลาร์ได้ก่อนสิ้นปี หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) กลับมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน (Quantitative Easing) ซึ่งจะเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
แม้ตลาดจะเผชิญกับความผันผวนอย่างหนัก นักลงทุนยังคงจับตาปัจจัยเศรษฐกิจ การกำกับดูแล และการเคลื่อนไหวของสถาบันต่างๆ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของวงการคริปโตในช่วงต่อไปของปีนี้
ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา:Crypto-economy