แม้ว่า ราคา Solana ($SOL) จะปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ระบบนิเวศของเครือข่ายยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง โดยในช่วง 2 สัปดาห์แรกมีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาอย่างมาก โดยเฉพาะการเปิดตัวของ PumpSwap แพลตฟอร์ม DEX น้องใหม่ที่มียอดซื้อขายพุ่งทะลุ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ภายในเวลาเพียง 10 วัน
ในขณะที่ Solaxy ($SOLX) ซึ่งเป็น Layer-2 ตัวแรกของ Solana ก็ทำผลงานได้โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยยอดระดมทุนพุ่งทะลุ 28.6 ล้านดอลลาร์ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเหรียญใหม่ที่น่าจับตามองในตอนนี้
PumpSwap เข้ามาเติมเต็มประสบการณ์ของนักเทรดเหรียญมีมจาก Pump.fun ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการยกระดับ UX/UI ให้การซื้อขายและการโอนโทเคนลื่นไหลและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ส่วนทาง Solaxy ก็มีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการเข้ามาแก้ปัญหาความแออัดบนเครือข่าย Solana ที่เคยเป็นจุดอ่อน โดยอัปเดตล่าสุดสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่แชร์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชีลมีเดีย X ระบุว่า การเปิดตัว Layer-2 ครั้งนี้ กำลังดำเนินไปได้สวย
นักลงทุนที่ต้องการเข้าร่วมตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น ยังสามารถจับจองเหรียญ $SOLX ได้ที่ราคา 0.00168 ดอลลาร์ ต่อเหรียญ ซึ่งจะอยู่เพียงอีก 31 ชั่วโมง ก่อนจะมีการปรับราคาขึ้นในเฟสถัดไป และด้วยโปรโตคอลสเตกกิ้งที่เสนออัตรา APY สูงสุดถึง 143% (แบบไดนามิก) ทำให้ Solaxy กลายเป็นโอกาสที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเพิ่มการถือครอง ก่อนที่แพลตฟอร์มจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
2 ข่าวเหตุการณ์ใหญ่ของ Solana ใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาหุ้นและคริปโตกลับมาเผชิญแรงกดดันอีกครั้ง หลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศ กลับมาใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบดั้งเดิม โดยมีแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์จากประเทศที่เก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 25% และยังอยู่ระหว่างพิจารณาเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจาก ทุกประเทศ อีก 20% ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อความเชื่อมั่นของตลาด
ในขณะนี้ นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตารายละเอียดนโยบายภาษีชุดใหม่นี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่า จะถูกเปิดเผยในวันที่ 2 เมษายน โดยทรัมป์เรียกวันนั้นว่าเป็น “วันปลดปล่อย”
ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งมีมูลค่ารวมสูงถึง 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ ก็ได้รับแรงกระแทกเช่นกัน โดยมูลค่าลดลงมาเหลือประมาณ 2.65 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งราคา Bitcoin ก็มีปริมาณการซื้อขายลดลงเหลือประมาณ 82,000 ดอลลาร์ ขณะที่ Solana ซึ่งก่อนหน้านี้พุ่งขึ้นไปแตะ 146 ดอลลาร์ ก็ร่วงกลับมาอยู่ที่ 124 ดอลลาร์
แม้จะเผชิญกับราคาที่ปรับตัวลดลง แต่ Solana ยังคงแสดงให้เห็นถึงพลังของระบบนิเวศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดตัวของ PumpSwap แพลตฟอร์ม DEX รุ่นใหม่ ที่สามารถสร้างวอลุ่มการซื้อขายทะลุ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ภายในเวลาเพียง 10 วัน ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับอนาคตของเครือข่าย แม้ในช่วงที่ตลาดกำลังผันผวนก็ตาม
กระแสความร้อนแรงของ PumpSwap เกิดขึ้น ท่ามกลางการปรับปรุงครั้งใหญ่ในระบบการซื้อขายเหรียญจาก Pump.fun โดยแพลตฟอร์มใหม่นี้ได้ขจัดอุปสรรคเดิมอย่างค่าธรรมเนียมการโอน รวมถึงค่าธรรมเนียม 6 $SOL ที่เคยเรียกเก็บจากทั้งผู้สร้างและผู้ซื้อเหรียญ ทำให้การเทรดมีความคล่องตัวและเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้น PumpSwap ยังมอบสภาพคล่องให้กับเหรียญที่สร้างจาก Pump.fun โดยไม่ต้องย้าย LP ไปแพลตฟอร์มอื่น ลดขั้นตอนยุ่งยาก พร้อมแนะนำ โมเดลแบ่งรายได้ให้ผู้สร้างเหรียญ ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญเมื่อเทียบกับ DEX รายใหญ่ของ Solana อย่าง Raydium ที่ยังต้องโอนสภาพคล่องด้วยตนเอง
ด้วยการที่ PumpSwap ล็อกสภาพคล่องไว้ภายในระบบของ Pump.fun โดยตรง ทำให้ระบบนิเวศของ Solana ได้รับประโยชน์จากการหมุนเวียนของกิจกรรมการซื้อขายที่ต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนจากวอลุ่มซื้อขายที่พุ่งทะลุ 2.5 พันล้านดอลลาร์ภายใน 10 วันแรกของการเปิดตัว
ในขณะเดียวกัน อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่น่าจับตามองไม่แพ้กันก็คือ Solaxy โปรเจกต์ Layer-2 ตัวแรกบน Solana ที่ใกล้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยล่าสุดมียอดระดมทุนรวมใกล้แตะ 29 ล้านดอลลาร์ แล้ว
Solaxy อาจเป็นจุดเปลี่ยนให้ Anatoly Yakovenko ต้องทบทวนมุมมองเครือข่าย Layer-2 อีกครั้ง เมื่อพิจารณาสิ่งที่ Solaxy สามารถทำได้ ร่วมกับแพลตฟอร์มอย่าง PumpSwap
หากย้อนกลับไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตอนที่เหรียญมีมธีมทรัมป์เปิดตัวขึ้นพร้อมกันถึงสองเหรียญ เครือข่าย Solana ก็ต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาลอีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถรองรับปริมาณธุรกรรมที่หลั่งไหลเข้ามาได้อย่างทันท่วงที
ปัญหาความแออัดและความไม่เสถียรนี้เป็นสิ่งที่ตามหลอกหลอน Solana มาตั้งแต่ช่วงเปิดตัว และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า Solana จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็น “Ethereum Killer” ได้จริงหรือไม่
แม้ว่า ผู้ก่อตั้ง Anatoly Yakovenko จะไม่ใช่แฟนตัวยงของแนวคิดการใช้ Layer-2 บน Solana แต่ Solaxy ก็ยังคงเดินหน้าพัฒนา ด้วยแรงสนับสนุนจากเงินลงทุนในช่วงโปรเจกต์เริ่มต้น มูลค่าหลายล้านดอลลาร์
Solaxy มาพร้อมโซลูชันการ ถ่ายโอนธุรกรรมออกจากเมนเน็ต เพื่อประมวลผลนอกเชน ก่อนจะส่งผลลัพธ์กลับมายังบล็อกเชนหลัก วิธีนี้สามารถเพิ่มพื้นที่บัฟเฟอร์ ลดภาระของเมนเน็ต และช่วยบรรเทาปัญหาความแออัดที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่งผลให้ Solana สามารถคงจุดแข็งด้าน ความเร็วและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องแลกมากับปัญหาการหยุดชะงักที่เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งในอดีต
การทำงานร่วมกันระหว่าง Solaxy และ PumpSwap อาจเป็นก้าวสำคัญที่ยกระดับการซื้อขายเหรียญมีมไปอีกขั้น โดย Solaxy เข้ามาเติมเต็มด้วยการเชื่อมโยง สภาพคล่อง พูล และกิจกรรมการซื้อขายของ PumpSwap ให้สามารถเคลื่อนตัวข้ามเครือข่ายผ่าน Layer-2 ได้อย่างลื่นไหล ซึ่งช่วยเพิ่มทั้ง ความเร็วในการทำธุรกรรม และ ประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ โดยไม่ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียสภาพคล่องออกไปจากระบบนิเวศของ Solana
นอกจากนั้น Solaxy ยังเปิดทางให้มีการเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง สำหรับผู้ใช้งานบน PumpSwap ทำให้การซื้อขายเหรียญมีมกลายเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายขึ้น และที่สำคัญคือยังสามารถ ปกป้องธุรกรรมจากปัญหาเครือข่ายล่ม แบบที่เคยเกิดขึ้นกับเหรียญอย่าง Official Trump ($TRUMP) และ Official Melania ($MELANIA) เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากสูญเสียความเชื่อมั่น
ท้ายที่สุดแล้ว การผสานพลังระหว่าง Solaxy และ PumpSwap อาจกลายเป็น จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ขาดหายไปของ Solana ที่จะช่วยให้เครือข่ายสามารถปลดล็อกศักยภาพได้อย่างเต็มที่
Solaxy ไม่เพียงแค่จะครองตลาดเหรียญมีมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเกม Web3 และ DeFi ด้วย
อย่างไรก็ตาม โลกของเหรียญมีม ไม่ใช่จุดหมายเดียวที่ Solaxy จะเข้ามายกระดับระบบนิเวศของ Solana ได้ เพราะในฐานะ Layer-2 Solaxy ยังมีศักยภาพในการกลายเป็น สนามทดลองสำหรับอุตสาหกรรม Web3 ภาคส่วนเกม ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งภาคส่วนสำคัญที่ Solaxy ตั้งใจ จะเข้ามาสนับสนุนอย่างจริงจัง คือ DeFi โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงเหรียญประจำเครือข่ายอย่าง $SOLX ที่เปิดตัวมาในรูปแบบ ERC-20 token บน Ethereum ซึ่งเมื่อการพัฒนาเชนของ Solaxy แล้วเสร็จ เหรียญ $SOLX จะสามารถ เชื่อมต่อกับเชนหลักของ Solana ได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้การเคลื่อนย้ายสินทรัพย์และการใช้งานข้ามเครือข่ายเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์
จากอัปเดตล่าสุดสำหรับนักพัฒนาที่ถูกแชร์ผ่านแพลตฟอร์ม X ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่าง Solaxy และ Hyperlane ซึ่งกำลังมีความคืบหน้าอย่างรวดเร็วในการยกระดับความปลอดภัยและเสถียรภาพของบริดจ์เชื่อมระหว่างเครือข่าย แม้จะยังอยู่ในช่วงทดสอบเครือข่ายก็ตาม
พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ การเพิ่ม Solaxy เข้ามาในระบบนิเวศของ Solana ถือเป็นการ อัปเกรดครั้งใหญ่ ที่อาจพลิกโฉมอนาคตของเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับประสบการณ์การซื้อขายมีมโทเคนให้ลื่นไหลและปลอดภัยยิ่งขึ้น, การวางรากฐานให้ Solana ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในวงการเกม Web3 หรือแม้กระทั่งการขยายอิทธิพลในโลก DeFi ที่จะช่วยให้ Solana ชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Ethereum ได้มากขึ้น
นี่อาจเป็นสาเหตุที่อินฟลูเอนเซอร์ในด้านคริปโตชื่อดังอย่าง Myles G Investments ผู้มีผู้ติดตามบน YouTube กว่า 164,000 ราย คาดการณ์ว่า $SOLX จะมีศักยภาพเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
ด้วยยอดระดมทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง Solaxy กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงท้ายของเฟสเริ่มต้นของโปรเจกต์ ซึ่งทำให้การถือครอง $SOLX ในตอนนี้กลายเป็นเรื่องสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะก่อนที่จะมีการลิสต์เหรียญในตลาดแลกเปลี่ยนระดับ Tier-1 ซึ่งมีศักยภาพที่จะผลักดันราคาพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ในฐานะปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่อาจส่งผลบวกต่อราคา $SOL เอง $SOLX ก็มีโอกาสเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับเหรียญหลักของ Solana นั่นหมายความว่า ราคาปัจจุบันของ $SOLX อาจเป็นระดับที่ต่ำที่สุดก่อนเกิดการวิ่งของราคารอบใหม่ คล้ายกับช่วงที่ $SOL เคยซื้อขายอยู่ที่แค่ $0.50 ก่อนกลายเป็นเหรียญหลักในตลาด
การมองข้ามโอกาสในการเข้าร่วม $SOLX ตอนนี้ อาจให้ความรู้สึกไม่ต่างจากตอนที่พลาดเข้าร่วม $SOL ในช่วงเริ่มต้น และหากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย นี่อาจเป็นโอกาสรอบสองที่อาจหลุดมืออีกครั้ง
ติดตามข่าวสารล่าสุดจากชุมชน Solaxy บน X และ Telegram
หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษา Solaxy เพิ่มเติม ได้แล้ว
เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
---|---|---|
1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | |
2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | |
3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | |
4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | |
5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | |
6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | |
7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | |
8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | |
9. สัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | |
อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ |
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์