<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>
bitkub-2022-769x90

Bitcoin ผงาด! กำลังหลุดพ้นอิทธิพลทองคำ-หุ้น นักเทรดลุ้นทะลุ 100,000 ดอลลาร์

bitkub-2022-768x90
ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Bitcoin เริ่มแสดงสัญญาณของการเคลื่อนไหวแยกตัวออกจากทองคำและตลาดหุ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา แม้ตลาดทั่วโลกจะตื่นตระหนก แต่ Bitcoin กลับฟื้นตัวขึ้นสวนทางอย่างน่าจับตา

ในช่วงต้น BTC ร่วงลงกว่า 3% สู่ระดับ 82,500 ดอลลาร์ ก่อนดีดตัวกลับขึ้นมาอีกกว่า 4.5% ทะลุแนวต้านที่ 84,700 ดอลลาร์ ขณะที่ S&P 500 ร่วงหนักถึง 10.65% ในรอบสัปดาห์ และราคาทองคำลดลง 4.8% หลังแตะจุดสูงสุดที่ 3,167 ดอลลาร์

แนวโน้มการฟื้นตัวของราคาทองคำอาจเป็นตัวจุดประกายการฟื้นของ Bitcoin อีกครั้ง เหมือนในช่วงปลายปี 2018 ถึงกลางปี 2019 ซึ่งทองคำปรับขึ้นเกือบ 15% ก่อนที่ BTC จะพุ่งตามขึ้นกว่า 170% ในต้นปี 2019 และอีก 344% ในช่วงปลายปี 2020

นักวิเคราะห์จาก MacroScope มองว่า “การที่ราคาทองคำกลับมาแตะ 100,000 ดอลลาร์ หมายถึงสัญญาณการส่งต่อแรงซื้อไปยัง BTC ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ราคาของ Bitcoin อาจเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่ที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสแซงหน้าทั้งทองคำและสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ”

Mike Alfred ผู้ก่อตั้ง Alpine Fox เองก็เห็นด้วย โดยเขาคาดการณ์ว่า Bitcoin มีโอกาสเติบโตมากกว่าทองคำถึง 10 เท่า อ้างอิงจากรูปแบบการเคลื่อนไหวในอดีต

สัญญาณจากอัตราส่วนระหว่าง Bitcoin และ ทองคำ ส่งคำเตือนระวัง “กับดักกระทิง”

แม้ภาพรวมจะดูสดใส แต่อัตราส่วน BTC/XAU (Bitcoin ต่อทองคำ) กำลังส่งสัญญาณบางอย่างที่ควรจับตา โดยเฉพาะรูปแบบแฟรกทัลซ้ำที่เกิดขึ้นจากการทดสอบแนวรับที่เส้น EMA 50-2W ซึ่งเคยเกิดขึ้นในปี 2021 ก่อนที่ BTC จะร่วงลงแรง

หากแพทเทิร์นเดิมเกิดซ้ำอีกครั้ง Bitcoin อาจร่วงลงไปทดสอบ EMA 50-2W ที่ระดับประมาณ 65,000 ดอลลาร์ และถ้าหลุดแนวรับนี้ลงมา อาจไถลต่อไปถึงระดับ 20,000 ดอลลาร์ ตามแนวรับที่ EMA 200-2W

อย่างไรก็ตาม หาก BTC/XAU ดีดตัวกลับขึ้นเหนือ EMA 50 ได้อีกครั้ง ก็อาจเป็นการปฏิเสธแนวโน้มขาลงนี้ และเปิดทางให้เกิดแรงซื้อระลอกใหม่ได้เช่นกัน

เศรษฐกิจสหรัฐฯ และนโยบายการเงิน ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญ

จากปัจจัยพื้นฐาน นักลงทุนยังคงกังวลว่าสงครามภาษีศุลกากรระดับโลกของประธานาธิบดีทรัมป์ อาจลุกลามกลายเป็นสงครามการค้าเต็มรูปแบบ และฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin

ขณะเดียวกัน ประธาน Fed เจอโรม พาวเวลล์ ได้ออกมาปฏิเสธแนวคิดเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น โดยให้เหตุผลว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงไม่เสถียร ทำให้ตลาดเริ่มกลับมากังวลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมของดอกเบี้ยสูงในระยะยาว ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการสะสม BTC

แม้พาวเวลล์จะส่งสัญญาณระมัดระวัง แต่ข้อมูลจาก CME ชี้ว่า ตลาดพันธบัตรยังคาดหวังว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 3 ครั้งก่อนการประชุมเดือนกันยายน ซึ่งหากเป็นจริง อาจช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนหันกลับมาสะสม Bitcoin อีกครั้ง
Source: Cointelegraph

ข่าวต่อไป