<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>
bitkub-2022-769x90

World Liberty Financial ทุ่มซื้อ SEI เพิ่มอีก 26 ล้านบาท! แม้พอร์ตยังขาดทุนหนักต่อเนื่อง

bitkub-2022-768x90
ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

World Liberty Financial (WLFI) โปรเจกต์คริปโตยักษ์ใหญ่ที่หนุนหลังโดยครอบครัว Donald Trump ได้เดินหน้าสะสมเหรียญ altcoin ต่อเนื่อง โดยล่าสุดเข้าซื้อเหรียญ Sei (SEI) เพิ่มอีก 4.89 ล้านเหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 775,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 26 ล้านบาท ตามข้อมูลจาก ARKHAM

ทำให้ปัจจุบัน WLFI ถือพอร์ตคริปโตแบบกระจายความเสี่ยง โดยมีทั้ง Bitcoin, Ether และเหรียญอื่น ๆ อย่าง Tron, Ondo Finance, Avalanche และล่าสุดคือ Sei 

ข้อมูลจาก Lookonchain ระบุว่าโครงการใช้เงินไปแล้วกว่า 346.8 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อเหรียญ 11 ตัว ทว่ากลับยังไม่มีกำไรเลยสักเหรียญเดียว โดยเฉพาะพอร์ต Ethereum ที่ขาดทุนไปแล้วมากกว่า 114 ล้านดอลลาร์

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ Eric Trump ลูกชายของอดีตประธานาธิบดี เคยโพสต์บน X เชิญชวนให้ผู้ติดตามซื้อ Ether โดยกล่าวว่า “ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการสะสม $ETH” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวเคยมีคำว่า “แล้วคุณจะขอบคุณผมทีหลัง” แต่ถูกลบออกในภายหลัง

ในขณะเดียวกัน มีผู้พบเห็นโลโก้ของ USD1 ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ของ WLFI ปรากฏในแพลตฟอร์มอย่าง Coinbase, Binance และ CoinMarketCap แม้ทาง WLFI ยังไม่มีการประกาศเปิดตัวโลโก้อย่างเป็นทางการ

Maxine Waters ส.ส.ฝ่ายเดโมแครต ได้กล่าวในที่ประชุมสภาว่า Trump อาจมีแผนใช้ USD1 แทนที่เงินดอลลาร์ โดยกล่าวว่า “เขาอาจต้องการให้รัฐบาลใช้เหรียญ stablecoin ในทุกระบบ ตั้งแต่กระทรวงที่อยู่อาศัยไปจนถึงประกันสังคม และจ่ายภาษีด้วยเหรียญของตัวเอง”

ด้านประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายรีพับลิกัน French Hill ก็แสดงความกังวลเช่นกันว่า “หากไม่มีการสกัดกั้นไม่ให้ประธานาธิบดีเป็นเจ้าของธุรกิจเหรียญ stablecoin เอง ผมก็ไม่สามารถสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ได้ และขอให้สมาชิกสภาคนอื่นอย่าสนับสนุนเช่นกัน”

โปรเจกต์นี้กำลังตกเป็นเป้าโจมตีทั้งในเรื่องผลตอบแทนการลงทุนและมิติทางการเมืองที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางสภาพตลาดที่ยังไม่เอื้ออำนวยสำหรับคริปโตสาย altcoin ในเวลานี้

อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ

ที่มา: Cointelegraph

ข่าวต่อไป