ประธานาธิบดีซาดีร์ ฌาปารอฟ (Sadyr Zhaparov) แห่งคีร์กีซสถาน ได้ลงนามรับรองกฎหมายสำคัญที่เปิดทางให้ธนาคารกลางสามารถออกเงินสกุลดิจิทัลของประเทศ หรือที่เรียกว่า “ซอมดิจิทัล” (digital som) ได้ในอนาคต โดยให้สถานะของเงินดิจิทัลนี้เทียบเท่ากับเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย
สำนักงานประธานาธิบดีคีร์กีซสถานได้ประกาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 เมษายน ระบุว่า กฎหมายฉบับนี้ให้อำนาจแก่ธนาคารกลางแห่งคีร์กีซสถาน ในการเป็นผู้เดียวที่สามารถออก “ซอมดิจิทัล” ได้ รวมถึงการวางกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการออก และการหมุนเวียนของเงินดิจิทัลนี้ และยังเป็นผู้ดูแลระบบแพลตฟอร์มที่ใช้ในการดำเนินการทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม สำนักข่าวท้องถิ่น Trend News Agency รายงานว่า การตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่า จะออก “ซอมดิจิทัล” อย่างเป็นทางการหรือไม่ คาดว่าจะต้องรอไปจนถึงช่วงปลายปี 2026
หากธนาคารกลาง เห็นชอบให้มีการใช้เงินดิจิทัลนี้อย่างเป็นทางการ ก็จำเป็นต้องมีการกำหนดมาตรการด้านการเข้ารหัส เพื่อป้องกันการถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด หรือใช้ในธุรกรรมการฉ้อโกง ซึ่งคาดว่า การทดสอบระบบของ “ซอมดิจิทัล” จะเริ่มขึ้นภายในปีนี้
การลงนามของประธานาธิบดีคีร์กีซสถานครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากรัฐสภาคีร์กีซสถาน Jogorku Kenesh ได้ลงมติรับรองกฎหมายดังกล่าว ไปเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา
แม้ว่าแนวคิดของเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) จะถูกผลักดันในหลายประเทศ แต่ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชุมชนคริปโตอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในประเด็นความเป็นส่วนตัว และอำนาจการควบคุมที่มากเกินไปจากรัฐบาล
ซึ่งปัจจุบันมีประเทศมากกว่า 115 ประเทศ ที่เริ่มต้นโครงการเกี่ยวกับ CBDC แต่มีเพียง 4 ประเทศเท่านั้นที่ออกใช้อย่างเป็นทางการ ได้แก่ บาฮามาส(Sand Dollar), ไนจีเรีย (e-Naira), ซิมบับเว (ZiG) และจาเมกา (JAM-DEX)
ในขณะที่โครงการสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) กว่า 90 โครงการทั่วโลก ยังอยู่แค่ในขั้นตอนการวิจัยเท่านั้น ยังไม่ได้เดินหน้าจริงจังหรือเริ่มใช้งานแต่อย่างใด
ในด้านของคีร์กีซสถานเอง ช่วงที่ผ่านมาได้ขยับเข้าใกล้โลกคริปโตมากขึ้น เช่น เมื่อต้นเดือนนี้ อดีตซีอีโอของ Binance อย่าง Changpeng Zhao (CZ) ก็เพิ่งประกาศว่า จะให้คำปรึกษากับรัฐบาลคีร์กีซในเรื่องนโยบายเกี่ยวกับบล็อกเชนและคริปโต หลังจากลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วมกับหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของประเทศ
ประธานาธิบดี ดีซาดีร์ ฌาปารอฟ (Sadyr Zhaparov) กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจ รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ดิจิทัล และจะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจและประชาชนในประเทศ
ตามรายงานของ International Energy Agency ระบุว่า ประเทศคีร์กีซสถานเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่มีพื้นที่ภูเขามาก ถือเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการทำเหมืองคริปโต เพราะมีแหล่งพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังน้ำอยู่มาก แต่ใช้ไปเพียงแค่ 10% จากศักยภาพทั้งหมดเท่านั้น
ที่มา : cointelegraph