Richard Teng ซีอีโอของเว็บเทรด Binance ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ Financial Times เมื่อวันที่ 17 เมษายนว่า Binance กำลังช่วยเหลือรัฐบาลหลายประเทศ ในการวางแผนจัดตั้งทุนสำรอง Bitcoin และออกนโยบายกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล
Richard Teng กล่าวว่า “มีหลายรัฐบาล และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัฐจำนวนหนึ่งที่ติดต่อเข้ามา เพื่อขอคำปรึกษาในการจัดตั้งทุนสำรองคริปโทฯ ของตัวเอง”
Richard Teng ระบุว่า หลายประเทศเริ่มให้ความสนใจในแนวทางของสหรัฐฯ ที่ชัดเจนและเดินหน้านำหน้าประเทศอื่น ๆ ไปมากแล้ว ซึ่งในช่วงต้นปี 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้ลงนามคำสั่งบริหาร เพื่อจัดตั้งคลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติ (Strategic Bitcoin Reserve) โดยใช้ Bitcoin ที่ยึดได้จากคดีอาญา และคดีแพ่งของรัฐบาลกลางมาเป็นทุนตั้งต้น ทำให้หลายประเทศเริ่มพิจารณาแนวทางคล้ายกัน และหันมาหา Binance เพื่อขอคำปรึกษา
อย่างไรก็ตาม Binance ยังไม่ได้เปิดเผยจำนวน หรือรายชื่อประเทศที่เข้าร่วมโครงการ ที่แท้จริง
Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance (ทางซ้าย) ข้าง ๆ Mohammad Ishaq Dar รองนายกรัฐมนตรีปากีสถาน และBilal bin Saqib ซีอีโอของ Pakistan Crypto Council ที่มา: รัฐบาลปากีสถาน
ขณะที่บางประเทศอย่าง ปากีสถาน และ คีร์กีซสถาน เพิ่งประกาศความร่วมมือกับ Binance และ Changpeng Zhao (CZ) อดีต CEO ของ Binance ในด้านนโยบายคริปโท แต่ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องทุนสำรอง Bitcoin อย่างเป็นทางการ
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ Binance กำลังเปลี่ยนท่าทีจากเดิมที่ยืนกรานว่า บริษัทจะไม่มีสำนักงานใหญ่ โดย Richard Teng เปิดเผยว่า ตอนนี้บริษัทกำลังพิจารณาถึงการตั้งสำนักงานใหญ่ระดับโลกอย่างจริงจัง ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนทิศทางจากยุคของ Changpeng Zhao (CZ) ที่เคยกล่าวไว้ว่า สำนักงานใหญ่เป็นแนวคิดเก่าเหมือน SMS กับ MMS
ปัจจุบัน หลายประเทศเริ่มมีกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับธุรกิจคริปโต ซึ่งน่าจะเป็นแรงผลักดันให้ Binance ต้องปรับตัว เปลี่ยนแปลงให้เข้ากับระบบมากขึ้น หลังจากที่เคยโดนตรวจสอบอย่างหนักในหลายประเทศ เมื่อช่วงปี 2020
ที่มา : cointelegraph