Mike McGlone นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Bloomberg เตือนว่า ตลาดสหรัฐฯ อาจเผชิญหน้ากับการปรับฐานครั้งใหญ่ ซึ่งอาจทำให้ราคาบิทคอยน์ น้ำมัน และหุ้นร่วงหนัก
ตามโพสต์ในโซเชียลมีเดีย X เขาวิเคราะห์ว่า สหรัฐฯ มี “กลไกปรับสมดุลในตัวเอง” ซึ่งอาจจะกำลังเกิดขึ้นเพื่อเป็นการตอบโต้ผลกระทบจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ และกลไกดังกล่าวอาจนำไปสู่ความวุ่นวายในตลาด
McGlone ชี้ให้เห็นว่า อัตราส่วนของดัชนี S&P 500 เทียบกับ GDP และทองคำ อยู่ในระดับที่สูงผิดปกติ ซึ่งในอดีตเคยเกิดลักษณะนี้มาแล้วก่อนหน้าวิกฤตตลาดหุ้น เช่น ช่วงปี 1930s, ปลายยุค 1990s และปี 2008

เขามองว่าถ้ามีการ “ปรับฐาน” (reversion) แบบในอดีตเกิดขึ้นอีกครั้ง อาจทำให้สินทรัพย์หลายอย่างราคาร่วงรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นหุ้น บิทคอยน์ น้ำมัน ทองแดง หรือแม้แต่พันธบัตรรัฐบาล
McGlone ยังเสริมว่า: “กลไกปรับสมดุลของอเมริกานั้นหยุดไม่ได้ ถ้ามาตรการอย่างภาษีนำเข้าและรัดเข็มขัดไม่เวิร์ก ก็จะมีแรงต่อต้านเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากการพยายามรีเซ็ตเศรษฐกิจครั้งใหญ่นี้ได้ผล ทิศทางของโลกในศตวรรษถัดไปอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เลยทีเดียว ทว่า ปัญหาคือ ตอนนี้มูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เทียบกับ GDP และประเทศอื่น ๆ สูงที่สุดในรอบเกือบ 100 ปีแล้ว”
McGlone คาดการณ์สถานการณ์ฐานของการ “ปรับฐาน” ไว้แบบนี้:
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจร่วง 50%
- น้ำมันอาจลดเหลือบาร์เรลละ 40 ดอลลาร์
- ทองแดงอาจอยู่ที่ 3 ดอลลาร์ต่อปอนด์
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ อาจอยู่ที่ 3%
- บิทคอยน์อาจร่วงเหลือ 10,000 ดอลลาร์ และเหรียญคริปโตอื่น ๆ อาจร่วงมากถึง 90%
- ทองคำอาจขึ้นไปถึง 4,000 ดอลลาร์ (เป็นสินทรัพย์ที่อาจสวนทางตลาด ไม่ใช่แค่การปรับฐานธรรมดา)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า McGlone จะคาดว่าตลาดอาจร่วงแรง แต่เขาย้ำว่า ระดับการปรับฐานเหล่านี้ถือว่า “เป็นเรื่องปกติ” หากอิงตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
ที่มา: dailyhodl