Coinbase เดินหน้าขยายทีมในสหรัฐฯ ด้วยการเปิดสำนักงานใหม่ที่เมือง Charlotte รัฐนอร์ทแคโรไลนา รับคนเพิ่มกว่า 130 ตำแหน่ง โดยเน้นสายงานฟินเทคและกำกับดูแล ที่ต้องเข้าออฟฟิศเป็นหลัก
แม้ Coinbase จะยังคงยึดแนวทาง “remote-first” ตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่สามารถเลือกทำงานจากที่บ้าน หรือเข้ามาที่ออฟฟิศได้ตามสะดวก แต่สำหรับบางตำแหน่ง เช่น ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า และฝ่ายกำกับดูแล จะต้องทำงานประจำที่สำนักงานเป็นหลัก เพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการ
บริษัท Coinbase ระบุเพิ่มเติมว่า พนักงานทั่วโลกประมาณ 95% สามารถเลือกได้ว่าจะทำงานแบบไหน ซึ่ง Coinbase ตั้งใจจะเข้าถึงคนเก่งๆ โดยเฉพาะในเมืองที่กำลังกลายเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีทางการเงิน
นอกจากนี้ Coinbase ยังเปิดเผยว่า ภายในปีนี้มีแผนจะจ้างพนักงานเพิ่มในสหรัฐฯ อีกประมาณ 1,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นผลจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีท่าทีในเชิงบวกต่อคริปโท ตั้งแต่ช่วงแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
Brian Armstrong ซีอีโอของ Coinbase ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X กล่าวว่า
“เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ ที่งาน Digital Asset Summit ณ ทำเนียบขาว ต้องขอบคุณความเป็นผู้นำของ @POTUS และ @DavidSacks ที่ช่วยผลักดันให้สหรัฐฯ มีการจัดตั้งกองทุนสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์ พร้อมกับความคืบหน้าในด้านกฎระเบียบที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เริ่มส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่ง Coinbase เตรียมจะจ้างพนักงานในสหรัฐฯ เพิ่มถึง 1,000 ตำแหน่งภายในปีนี้
พวกเรายังจะเดินหน้าผลักดันอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในอเมริกาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการเงินของโลกต่อไป”
ที่มา : cointelegraph