<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

สงครามเทขาย Bitcoin? จีน-สหรัฐฯ นำทัพ รัฐบาลทั่วโลกเร่งลดพอร์ต ฉุดยอดถือครองดิ่ง 12% ในรอบ 9 เดือน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Coingecko เปิดเผยรายงานล่าสุดที่น่าจับตา โดยชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในการถือครอง Bitcoin ของรัฐบาลหลายประเทศทั่วโลก โดยข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2025 พบว่า รัฐบาลต่าง ๆ ถือครอง Bitcoin รวมกันอยู่ที่ 463,741 BTC หรือประมาณ 2.3% ของอุปทาน Bitcoin ทั้งหมด

แม้ตัวเลขนี้จะดูไม่สูงนัก แต่เมื่อเทียบกับยอดในเดือนกรกฎาคม 2024 ที่เคยอยู่ที่ 529,591 BTC จะเห็นได้ว่าลดลงถึง 12% ภายในเวลาเพียง 9 เดือน สะท้อนชัดว่าหลายรัฐบาลกำลังทบทวนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีนัยสำคัญ

สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 198,012 BTC มูลค่าประมาณ 18,300 ล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขนี้ก็มีการลดลงจากเดือนกรกฎาคมปี 2024 หลังจากมีการขายสินทรัพย์ดิจิทัลบางส่วนออกไป 

ตามมาติด ๆ คือจีน ที่ถึงแม้จะสั่งแบนการซื้อขายและขุดเหมืองคริปโตไปแล้ว แต่ก็ยังถือ Bitcoin ไว้อยู่ถึง 194,000 BTC มูลค่าประมาณ 17,600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการยึดทรัพย์คดีแชร์ลูกโซ่ PlusToken ที่โด่งดังในปี 2019

อีกด้านหนึ่ง ก็ยังมีบางประเทศที่เดินหน้าสะสม Bitcoin ต่อเนื่อง เช่น เอลซัลวาดอร์ ที่นำโดยประธานาธิบดี Nayib Bukele ปัจจุบันถืออยู่ 6,135 BTC มูลค่ากว่า 567.8 ล้านดอลลาร์ และยังคงซื้อเพิ่มวันละ 1 BTC อย่างสม่ำเสมอ เพื่อปั้น Bitcoin ให้เป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจประเทศ

ประเทศเล็ก ๆ อย่างภูฏานเองก็ไม่น้อยหน้า ที่ขุด Bitcoin ได้ถึง 8,594 BTC ผ่านการใช้พลังงานสะอาดจากเขื่อนกั้นน้ำ ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เพิ่ม Bitcoin เข้าคลังด้วยวิธีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

ส่วนทางสหราชอาณาจักร (UK) ถือ Bitcoin อยู่ประมาณ 61,000 BTC ซึ่งได้มาจากการยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม และตอนนี้รัฐบาลก็กำลังคิดอยู่ว่าจะเอา Bitcoin เหล่านี้ไปขายออก หรือเอามาใช้ประโยชน์ต่อยอดทางการเงินในประเทศดี

อย่างไรก็ตาม แม้จะยังมีบางประเทศสะสม Bitcoin เพิ่มอยู่ แต่ภาพรวมแล้ว การที่ยอดถือครองของรัฐบาลทั่วโลก มีการลดลงถึง 12% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ย่อมเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจและอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดได้ในระยะยาว

ที่มา:coinpedia