ราคา Ethereum (ETH) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือนที่ 1,860 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน โดยนักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่า หาก ETH สามารถยืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง มีโอกาสสูงที่จะเกิดการปรับตัวขึ้นต่อในระยะสั้น
“เมื่อ ETH ปิดแท่ง 4 ชั่วโมงเหนือแนวต้าน 1,800 ดอลลาร์ได้อย่างชัดเจน จะเป็นช่วงเวลาที่ Ethereum และเหรียญ Altcoins อื่น ๆ ได้เฉิดฉาย” เทรดเดอร์ Kiran Gadakh โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 29 เมษายน
ขณะที่นักวิเคราะห์ชื่อดังอย่าง Nebraskangooner เตือนว่า หากราคา ETH ถูกปฏิเสธอย่างรุนแรงบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ อาจร่วงลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,600 ดอลลาร์ได้
โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันราคาคือความต้องการจากนักลงทุนสถาบันที่กลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะการไหลเข้าสู่ Ethereum ETF แบบ spot ที่สูงถึง 64.1 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 28 เมษายน ตามหลังสัปดาห์ที่มียอดไหลเข้าสูงถึง 151.7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2025 นอกจากนี้
รายงานของ CoinShares ชี้ว่า การไหลเข้ารวมในผลิตภัณฑ์ลงทุน Ethereum อยู่ที่ 183 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ้นสุดสถิติไหลออกต่อเนื่อง 8 สัปดาห์
“เรามองว่าความกังวลต่อผลกระทบของภาษีต่อกำไรบริษัท และการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างรุนแรง ทำให้นักลงทุนเริ่มหันมามองสินทรัพย์ดิจิทัลว่าเป็นที่พักเงินที่มีศักยภาพ”

อย่างไรก็ตาม Ethereum ยังคงเป็น Layer-1 blockchain ชั้นนำด้วยมูลค่าที่ถูกล็อกในระบบ (TVL) มากกว่า 51.8 พันล้านดอลลาร์ โดย TVL ของ Ethereum เพิ่มขึ้นประมาณ 16% ภายในสัปดาห์เดียว นำโดยโปรโตคอลอย่าง Aave ที่โต 13.5%, Lido เพิ่มขึ้น 12%, EigenLayer โต 13% และ Ether.fi เพิ่มขึ้น 12% เทียบกับ SUI ที่โตถึง 47% ถือว่า Ethereum ยังแข็งแกร่งในกรอบระยะสั้น
ในขณะที่ด้านปริมาณการซื้อขายบนตลาดแบบกระจายศูนย์ (DEX) ของ Ethereum เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ในสัปดาห์เดียว ทะลุระดับ 1.65 พันล้านดอลลาร์ แม้ยังต่ำกว่าการเติบโตของ SUI และ Solana ที่เพิ่มขึ้น 78% และ 44% ตามลำดับก็ตาม
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Cointelegraph

