Peter Brandt นักเทรดระดับพระกาฬผู้คร่ำหวอดในวงการการลงทุน ล่าสุดได้ออกมาทำนายว่าราคา Bitcoin อาจพุ่งทะยานไปได้ถึง $150,000 ในช่วงฤดูร้อน (ของสหรัฐฯ) หากสามารถทำเงื่อนไขได้ครบถ้วน
Brandt กล่าวว่าภายในเดือนสิงหาคม-กันยายน Bitcoin จะทำราคาอยู่ในระดับราคา $125,000 – $150,000 โดยเขาวิเคราะห์ว่า Bitcoin กำลังจะเคลื่อนไหวไปตามแพทเทิร์นแบบ “parabolic arc” กราฟทางเทคนิคที่มักบ่งบอกถึงการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วตามมาด้วยการปรับฐานราคาอย่างรุนแรง คล้ายกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในปี 2017

อย่างไรก็ตาม Bitcoin จำเป็นต้องกลับมายืนเหนือเส้นโค้งพาราโบลาที่เคยหลุดลงไป เพื่อให้สามารถไต่กลับไปสู่เป้าหมายราคาดังกล่าว ทว่า Brandt ยังได้แนบคำเตือนว่าหากราคาพุ่งแตะกลับมาพุ่งจุดสูงสุดในแพทเทิร์นนี้จริง อาจเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ตามมากว่า -50% ซึ่งเป็นลักษณะความผันผวนเฉพาะของแพทเทิร์นในรูปแบบนี้
ขณะเดียวกันนักวิจัย Bitcoin อย่าง Axel Adler Jr. ได้ชี้ให้เห็นว่าปัจจุบัน Bitcoin กำลังเตรียมตัวเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ซึ่งเขาได้แบ่งสถานการณ์ออกเป็น 3 สถานการณ์ด้วยกัน
ในกรณีแรก ราคา Bitcoin อาจไปยืนได้เหนือ $150,000 หาก หากอัตราส่วน Composite Index ทะลุระดับ 1.0 และสามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ ตัวชี้วัด NUPL/MVRV จะส่งสัญญาณแรงขับเคลื่อนรอบใหม่ ทำให้ราคาอาจพุ่งขึ้นไปถึง $150,000–175,000 ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับรูปแบบวัฏจักรในปี 2017 และ 2021

กรณีถัดมาหาก Bitcoin ไม่ได้เกิดอะไรหวือหวาราคาก็อาจทรงตัวอยู่ที่ $90,000 – $110,000 หากไม่มีเม็ดเงินใหม่ๆไหลเข้ามาในตลาด หรือนักลงทุนหน้าเก่าไม่อัดเงินทุนเข้าไปเพิ่ม
และกรณีสุดท้ายหากตลาดพลิกตัวกลับเป็นขาลงราคา Bitcoin อาจร่วงลงไปอยู่ในช่วงราคาระหว่าง $85,000 – $70,000
อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin ได้ทำแพทเทิร์นดีดตัวทะลุกรอบกว่า 13% ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงพักฐานเทรดกันแบบไซด์เวย์ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้เกิดการดีดตัวขึ้นอีกครั้งสู่ระดับราคาที่ $97,000 ทว่าหากอ้างอิงข้อมูลจากกราฟจะพบว่าในช่วงระดับราคาที่ $96,000 และ $99,000 นั้นมีวอลุ่มที่หนาแน่นเป็นอย่างมากทำให้ Bitcoin ในช่วงนี้อาจชะลอตัวลงก่อนขึ้นไปท้าทายแนวต้านสำคัญที่ $100,000 ต่อไป

ที่มา : Cointelegraph