<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CZ เชื่อ ทองคำไม่ใช่สินทรัพย์ที่มีอุปทานจำกัด ดังนั้นจึงไม่สามารถเอาชนะ Bitcoin ได้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Changpeng Zhao หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ CZ ได้ทวีตว่า “ไม่ได้ต่อต้านทองคำ แต่ว่ามันไม่ใช่สินทรัพย์ที่มีอุปทานจำกัด” เพียงประโยคเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ฝั่งที่ชอบทองคำโกรธ และขีดเส้นแบ่งระหว่างฝั่งคริปโตและฝั่งทองคำ

CZ ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าทำไมเขาจึงยังคงเดิมพันกับ Bitcoin โดยกล่าวว่า Bitcoin มีปริมาณจำกัด แต่ทองคำไม่มี สิ่งนี้เกิดขึ้นในขณะที่การพุ่งขึ้นอย่างโดดเด่นของทองคำดูเหมือนจะหยุดชะงัก

ตลาดทองคำเริ่มชะลอตัว

ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำลดลง 0.4% เหลือ 3,228.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ราคาร่วง 2.6% ต่อสัปดาห์ ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,500.05 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 22 เมษายน แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาทองคำร่วงลงมาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน 

ราคาทองคำปรับตัวลดลงเนื่องจากทั้งสหรัฐและจีนต่างลดความตึงเครียดเกี่ยวกับสงครามการค้า กระทรวงพาณิชย์ของจีนกล่าวว่าสหรัฐแสดงความสนใจที่จะเจรจาเรื่องภาษีศุลกากร และปักกิ่งก็เปิดกว้างสำหรับการหารือ

ความตึงเครียดที่ผ่อนคลายลงส่งผลกระทบต่อความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ความกลัวที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นกำลังจางหายไป โดย Daniel Pavilonis นักยุทธศาสตร์ตลาดรุ่นเก๋าของ RJO Futures กล่าวว่า 

“ดูเหมือนว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ 3,500 ดอลลาร์ ซึ่งอาจเป็นจุดสูงสุดในช่วงนี้” 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมเกิดขึ้นและความต้องการเสี่ยงกลับมาอีกครั้ง เขาย้ำว่าโดยปกติแล้วความวุ่นวายที่ลดลงหมายความว่าราคาทองคำจะนิ่งขึ้น ซึ่งนั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

รายงานการจ้างงานของสหรัฐระบุว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 130,000 ตำแหน่ง ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งขึ้นทำให้นักเทรดคิดว่า FED อาจไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น ซึ่งปกติแล้วจะทำให้ทองคำดูแย่ลง เนื่องจากไม่ได้ให้ผลตอบแทน

Bitcoin กำลังจะแซงทองคำ

แม้ว่าทองคำจะร่วงลง แต่ Bitcoin ก็ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ โดยยังคงเพิ่มขึ้นน้อยกว่า 1% ในปีนี้ แต่ดีกว่า S&P 500 ซึ่งร่วงลงกว่า 6%

หลังจากที่แตะจุดต่ำสุดในปี 2025 เมื่อวันที่ 8 เมษายน Bitcoin ก็ฟื้นตัวกลับมาที่ราว ๆ 20% แม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะการเพิ่มขึ้น 26% ของทองคำในปีนี้ได้ แต่ก็เกือบจะดีดตัวกลับ การฟื้นตัวครั้งนี้มีความสำคัญต่อผู้ที่กำลังจับตาดูการต่อสู้ระหว่างเงินเก่าและเงินใหม่

Peter Schiff หรือที่รู้จักกันในชื่อ “นักด่า Bitcoin” ได้บอกให้ผู้คนที่กังวลเรื่องเงินเฟ้อหันไปซื้อทองคำ และกล่าวว่า 

“จากการเคลื่อนไหวของราคาล่าสุดน่าจะชัดเจนแล้วว่า การบอกว่า Bitcoin ได้แยกตัวออกจาก NASDAQ และตอนนี้การซื้อขายก็เหมือนทองคำมากขึ้นนั้นเป็นเรื่องไม่จริง” 

ความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป

ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และทองคำเปลี่ยนไปมาก โดยในระหว่างปี 2020 และ 2024 ราคาของ Bitcoin และทองคำมักจะเคลื่อนไหวไปด้วยกัน แต่เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมของปีนี้ แพทเทิร์นนั้นก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โดยรายงานของ CNBC แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์แบบ 25 สัปดาห์ระหว่างทั้งสองลดลงเหลือ -0.42

ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2020 การดีดตัวกลับในเดือนเมษายนทำให้ตัวเลขกลับมาอยู่ที่ -0.28 แต่ก็ยังหมายความว่าสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้มีความใกล้เคียงกันมากนัก ตัวเลขอย่าง -0.42 หมายความว่าเมื่อทองคำเพิ่มขึ้น 1% Bitcoin จะลดลง 0.42% ซึ่งเป็นช่องว่างขนาดใหญ่สำหรับสินทรัพย์ 2 ประเภทที่ผู้คนเคยมองว่าเหมือนกัน

Geoff Kendrick หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลที่ Standard Chartered เขียนไว้ในบันทึกเดือนมีนาคมว่า Bitcoin ไม่ใช่ทองคำจริงๆ มันทำหน้าที่เหมือนเทคโนโลยีมากกว่า โดยได้กล่าวว่า

“นักลงทุนอาจได้รับประโยชน์จากการมอง Bitcoin เป็นทั้งหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่และเป็นตัวป้องกันความเสี่ยงจากระบบการเงินแบบดั้งเดิม”

Source: Cryptopolitan