Ethereum (ETH) กลับมาทวงพื้นที่บนเวทีคริปโตอีกครั้ง หลังจากราคาพุ่งทะยานกว่า 49% ภายในเวลาเพียง 6 วัน ทะลุแนวต้าน 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นระดับราคาที่ไม่เห็นมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
จุดเริ่มต้นของการพุ่งตัวครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม หลังจาก ETH ลงไปแตะจุดต่ำแถว 1,800 ดอลลาร์ และเพียงไม่กี่วันถัดมา ราคาก็พุ่งไม่หยุด กระตุ้นให้เกิดการพูดถึงกระแส “flippening” หรือการที่ Ethereum จะมีมูลค่าตลาดแซงหน้า Bitcoin อีกครั้ง
Brian Q นักวิเคราะห์จาก Santiment ระบุว่า บรรยากาศในโซเชียลก่อนหน้านี้เต็มไปด้วยความตลกร้ายเกี่ยวกับการร่วงของ ETH ซึ่งราคาก็ถูกคาดการณ์ว่าจะต่ำลงอีก ระหว่างวันที่ 6-7 พฤษภาคม
แต่หลังจากราคาเริ่มดีดตัวในวันที่ 8 พฤษภาคม กระแสในตลาดก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เทรดเดอร์รายย่อยต่างพากันแห่เข้าเทรด และบางรายก็เริ่มคาดการณ์ว่า ETH อาจทะยานถึง 3,500 ดอลลาร์เลยทีเดียว
Santiment ยังชี้ว่า การที่ ETH ถูกเมินมานานทำให้ตลาดไม่ทันตั้งตัวกับการพุ่งแบบสายฟ้าแลบครั้งนี้ โดยเฉพาะเมื่อสถาบันเริ่มสะสมเหรียญอย่างหนัก โดยบริษัท Abraxas Capital จากลอนดอนได้ซื้อ ETH ถึง 242,652 เหรียญ รวมมูลค่ากว่า 561 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์
Rekt Capital นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังเสริมว่า ETH ได้กลับเข้าสู่กรอบราคามาโครระหว่าง 2,200 ถึง 3,900 ดอลลาร์อีกครั้ง โดยสัปดาห์ที่แล้วราคาปิดอยู่ที่ 2,514 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกในระยะยาว
อีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนการเติบโตของ Ethereum คือค่าธรรมเนียมเครือข่ายที่ต่ำอย่างน่าประหลาดใจ ปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ยเพียง 0.84 ดอลลาร์ เทียบกับ 7 ดอลลาร์เมื่อหกเดือนก่อน ทำให้การใช้งานบนเครือข่ายกลับมาน่าสนใจขึ้นอย่างมาก
แต่อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนก็ยังเตือนว่าระดับราคาปัจจุบันระหว่าง 2,400-2,700 ดอลลาร์ อาจเป็นเพียงช่วงพักตัวก่อนจะพุ่งต่อ หรืออาจเป็นสัญญาณของการเขย่าตลาด หากโมเมนตัมชะลอ ราคามีโอกาสย่อลงมาทดสอบที่ 2,300 หรือ 2,100 ดอลลาร์อีกครั้ง
ตลาดยังคงจับตาอย่างใกล้ชิดว่า ETH จะสามารถรักษาโมเมนตัมนี้ไว้ได้นานแค่ไหน หรือจะกลับไปโดนดันกลับโดยแรงขายจากผู้ที่ติดดอยมานานหลายเดือน
ที่มา: CryptoPotato