ดูเหมือนว่ากองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐฯ ยังคงดึงดูดเม็ดเงินอย่างต่อเนื่อง หลังตลอดปี 2025 นี้มียอดเงินไหลเข้ารวมแล้วกว่า 7.5 พันล้านดอลลาร์ แสดงถึงความต้องการลงทุนในคริปโตที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะสัปดาห์ล่าสุดที่มีเงินไหลเข้าสุทธิกว่า 785 ล้านดอลลาร์ นับเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันที่เงินยังคงไหลเข้า ตามข้อมูลจาก Coinshare
โดยสหรัฐฯ ยังคงเป็นศูนย์กลางหลักของกระแสการลงทุนนี้ ด้วยเม็ดเงินไหลเข้าสูงถึง 681 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เยอรมนีและฮ่องกงตามมาเป็นลำดับด้วยตัวเลข 86.3 ล้านดอลลาร์ และ 24.4 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ

การฟื้นตัวของความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเกิดขึ้นหลังจากทำเนียบขาวประกาศพักการเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมเป็นเวลา 90 วัน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ซึ่งถือเป็นการลดภาษีนำเข้าราว 24% ทั้งฝั่งสหรัฐฯ และจีน
โดยเพียงวันเดียวหลังจากประกาศดังกล่าว แพลตฟอร์ม Coinbase ก็มี Bitcoin มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ถูกถอนออก ซึ่งเป็นสัญญาณที่นักวิเคราะห์มองว่าความต้องการจากสถาบันกำลังเร่งตัวขึ้น

ซึ่งสินทรัพย์ที่โดดเด่นที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ Ethereum ซึ่งมีเงินไหลเข้าสูงถึง 205 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดรวมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่กว่า 575 ล้านดอลลาร์ โดยกระแสนี้ถูกขับเคลื่อนจากความเชื่อมั่นที่ฟื้นคืนมาหลังการอัปเกรด Pectra สำเร็จและการแต่งตั้งผู้บริหารร่วมคนใหม่ Tomasz Stańczak
การอัปเกรด Pectra บน Ethereum mainnet ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เพิ่มขีดจำกัดของการ staking และเปิดตัวฟีเจอร์ account abstraction ผ่าน EIP-7702 ส่งผลให้ความสามารถในการปรับขยายระบบของ Ethereum มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
โดย Vitalik Buterin ก็ได้ออกข้อเสนอใหม่เพื่อสนับสนุนการใช้งาน Ethereum แบบไม่ต้องพึ่งพาศูนย์กลาง และให้การซิงค์ node มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยลดภาระข้อมูลจาก 1.3TB เหลือเพียงข้อมูลที่จำเป็น
ในทางตรงกันข้าม Solana กลับเป็นสินทรัพย์หลักเพียงตัวเดียวที่มียอดเงินไหลออกในสัปดาห์ที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 890,000 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงการเลือกลงทุนที่ยังมีความผันผวนระหว่างโปรเจกต์ต่าง ๆ
แนวโน้มกระแสเงินลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเป็นประเด็นร้อนในปีนี้ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่ทั้งภาคเอกชนและนักลงทุนสถาบันต่างกลับเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและนโยบายระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: Cointelegraph