ในการยื่นข้อเสนอครั้งล่าสุดบนเครือข่าย Bitcoin ได้มีข้อเสนอหนึ่งถูกยกขึ้นมาพูดถึงซึ่งจะเป็นการเสนอให้ Bitcoin มีการเปลี่ยนการนับหน่วนฐาน (Base unit) ใหม่เพื่อทำให้เวลาใช้งานจะได้ราบลื่นขึ้นและไม่เกิดปัญหา
John Carvalho นักพัฒนา Bitcoin ได้ยื่นข้อเสนอ 177 ในวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา โดยระบุว่าเขามีความต้องการที่จะล้มล้างระบบการนับ Bitcoin เป็น Satoshis ที่ซึ่งแบ่งอุปทานที่มีอยู่เดิม 21 ล้าน ให้กลายเป็น 21 ล้านล้านล้าน (quadrillion) หน่วย เพราะ 1 BTC = 100,000,000 Sats
นอกเหนือจากหน่วย Sats แล้ว Bitcoin ยังมีอีกหน่วยย่อยหนึ่งเช่นกันอย่าง “Bits” ที่ได้ถูก Jimmy Song สร้างขึ้นมาเมื่อปี 2017 เพื่อแสดงถึงหนึ่งในล้านส่วนของ 1 Bitcoin แต่ Carvalho กลับมองว่าแนวทางของ Song ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้สะดวกขึ้นนักและยังต้องคำนวนจุดทศนิยมอยู่ แต่เพียงแค่เป็นเลขที่จำง่ายขึ้นเพียงเท่านั้น กลายเป็นว่า “เป็นการเพิ่มความซับซ้อนมากกว่าที่จะกำจัดมัน”
อย่างไรก็ตาม Jack Dorsey ซีอีโอ Block Inc. เห็นด้วยกับแนวคิดที่จะล้มเลิกการนับ Bitcoin เป็น Sats เช่นกัน โดยให้เหตุผลว่าการใช้ Sats นั้นจะทำให้มือใหม่ที่เพิ่งเข้ามางุนงงเป็นอย่างมาก ดังนั้นการใช้คำว่า Bits ใน Bitcoin สมเหตุผลกว่า ทว่าชาวเน็ตบางคนก็ไม่เห็นด้วยกับ Dorsey และต่อต้านการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเขาอ้างว่า ถ้าคนเข้าใจการนับ cents ในดอลลาร์ได้คนจะเข้าจะการนับ Sats ได้
ในอดีต Satoshi Nakamoto ก็เคยคาดการณ์เหตุการณ์ลักษณะนี้ไว้ล่วงหน้า โดยในปี 2010 ก่อนที่เขาจะหายตัวไปจากวงการ เขากล่าวว่า “ถ้าวันหนึ่ง Bitcoin ได้โตขึ้นเป็นอย่างมากจนผู้ใช้เริ่มเบื่อหน่ายกับการนั่งนับจุดทศนิยม เราอาจสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการปรับการแสดงผลหน่วยทศนิยมให้เหมาะสมและใช้งานได้สะดวกขึ้น”
Satoshi ยกตัวอย่างไว้ว่าหากเรามี Bitcoin คงอยู่ที่ 1.0000 แต่หากเราโยกหน่วยทศนิยมขึ้นมาสามหน่วยเงินจำนวนนั้นจะถูกแสดงมูลค่าที่ 1,000.00 แทน ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนเงินยังคงเดิมแค่มีหน้าตาที่ต่างออกไป เพราะ Bitcoin สามารถรองรับทศนิยมได้ถึง 8 หลัก ทว่า Satoshi กลับให้มาแต่เพียงวิธีแก้ไขปัญหา ไม่ได้ระบุว่าเราควรจะนับหน่วย Bitcoin กันอย่างไร

สุดท้ายนี้ เครือข่าย Bitcoin ยังคงไม่มีการอนุมัติข้อเสนอใด ๆ มาตั้งแต่การอัปเกรด Taproot เมื่อปี 2021 ซึ่งเป็นการอัปเกรดเครือข่ายเพื่อช่วยเพิ่มความเร็วให้แก่ Bitcoin
ที่มา : Cointelegraph