Strategy หรือชื่อเดิมคือ MicroStrategy บริษัทที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลก กลับมาทำข่าวอีกครั้ง หลังประกาศเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 7,390 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 765 ล้านดอลลาร์ โดยมีราคาซื้อเฉลี่ยต่อเหรียญอยู่ที่ราว 103,500 ดอลลาร์ การซื้อครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่บริษัทต้องเผชิญการถูกฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหรัฐฯ
จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา Strategy มีการถือครอง Bitcoin รวมทั้งหมด 576,230 BTC คิดเป็นมูลค่ารวม 59.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าต้นทุนเฉลี่ยที่ราว 40.2 พันล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงกำไรที่ยังไม่รับรู้มากถึง 19.2 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 47% ของพอร์ตทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Strategy เผชิญการถูกฟ้องร้องแบบกลุ่มในสหรัฐฯ หลังผู้บริหารของบริษัทได้ให้ข้อมูลที่บิดเบือนหรือไม่ครบถ้วน เกี่ยวกับความเสี่ยงของการลงทุนใน Bitcoin รวมถึงความคาดหวังต่อผลกำไรในอนาคต ซึ่งรวมถึง Michael Saylor ประธานบริหาร, Phong Le CEO และ Andrew Kang CFO ซึ่งทั้งหมดถูกระบุชื่อเป็นจำเลยในคดี
อย่างไรก็ตาม นักพัฒนาในวงการ DeFi รายหนึ่งอย่าง 0xngmi แสดงความคิดเห็นว่า คดีนี้ดูไร้น้ำหนัก เพราะทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่า Strategy คือบริษัทที่วางตัวเองเป็น “Leverage on Bitcoin” หรือพูดง่ายๆ คือซื้อบริษัทนี้ก็เหมือนเทรด Bitcoin แบบมีเลเวอเรจ
ผลกระทบจากกลยุทธ์สะสม Bitcoin ของ Strategy ยังส่งแรงบันดาลใจให้กับบริษัทอื่นๆ เช่น AsiaStrategy ซึ่งเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อเน้นแผนการถือครอง Bitcoin เช่นเดียวกัน พร้อมร่วมมือกับ Sora Ventures ที่เคยสนับสนุน Metaplanet จากญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันถือครอง Bitcoin มากกว่าเอลซัลวาดอร์ไปแล้ว
ขณะเดียวกัน บริษัทรายย่อยจากบาห์เรนในธุรกิจจัดเลี้ยงที่มีมูลค่าตลาด 24.2 ล้านดอลลาร์ ก็ประกาศเข้าสู่โลกของ Bitcoin treasury โดยร่วมมือกับบริษัทลงทุน 10X Capital ยืนยันว่าการสะสม Bitcoin เริ่มกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของบริษัทในตลาดโลกที่กำลังมองหากลยุทธ์ทางการเงินแบบใหม่ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
ที่มา: Cointelegraph