การวิจัยล่าสุดจาก Flipside อาจทำให้หลายคนต้องตกใจ เพราะจากสำรวจพฤติกรรมของกระเป๋าคริปโทบนเครือข่ายชั้นนำอย่าง Solana, Ethereum, Arbitrum และ Avalanche พบว่ากว่า 80% ของผู้ใช้ “ออกจากวงการไป” ภายในเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น
การสำรวจได้แบ่งผู้ใช้คริปโทออกเป็น 3 กลุ่มตามพฤติกรรมการใช้งาน ได้แก่ กลุ่มที่ทำธุรกรรมน้อย (คะแนน 0-3), กลุ่มที่ทำธุรกรรมปานกลาง (คะแนน 4-7) และกลุ่มที่ทำธุรกรรมสูง (คะแนน 8 ขึ้นไป) แล้วติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้ในแต่ละกลุ่มแบบรายเดือนติดต่อกันถึง 6 เดือน
ผลลัพธ์ที่ได้ชัดเจนจนแทบไม่ต้องตีความ เดือนแรกของการเข้าสู่วงการคริปโท คือจุดเปลี่ยนที่โหดที่สุด โดยเฉพาะ ‘กลุ่มที่ทำธุรกรรมน้อย’ โดยรายงานเผยว่า หลังผ่านไป 6 เดือน กระเป๋าในกลุ่มนี้ เหลือผู้ใช้งานอยู่ไม่ถึง 5% นั่นหมายความว่า หากมีผูัใช้งานใหม่เข้ามา 100 คน จะเหลือไม่ถึง 5 คนที่ยังคงใช้งานคริปโทต่อ

ในกลุ่มที่ทำธุรกรรมปานกลาง สถานการณ์ดูจะดีขึ้นนิดหน่อย พวกเขามักเริ่มต้นด้วยกิจกรรมระดับกลาง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็มีการลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ก่อนจะเริ่มทรงตัวเมื่อเข้าสู่เดือนที่สามเป็นต้นไป
ขณะที่กลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มที่ทำธุรกรรมสูง ซึ่งใช้งานคริปโทอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว กลับมีอัตราการออกจากวงการช้าที่สุด โดยหายไปราว 5–8% ต่อเดือน

แม้ภาพรวมจะดูไม่ดีนัก แต่ก็ยังมีบางเครือข่ายที่ทำผลงานได้ดี เช่น Ethereum และ Avalanche ที่สามารถรักษาผู้ใช้งานระดับสูงไว้ได้ดีที่สุด โดยมียอดผู้ใช้งานที่ยังใช้งานอยู่ หลังผ่านไป 6 เดือน อยู่ที่ 35–38% ในทางกลับกัน Solana ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายขนาดใหญ่ กลับมีอัตราการรักษาผู้ใช้ต่ำกว่าคาดอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่งานวิจัยชิ้นนี้ สะท้อนให้เห็นคือ โลกคริปโทไม่ได้ดึงดูดผู้ใช้ในแบบที่ยั่งยืนอย่างที่เคยฝันไว้ คนส่วนใหญ่แค่มาลองใช้ แล้วก็จากไป และนอกจากพฤติกรรมผู้ใช้จะเปลี่ยนอย่างรวดเร็วแล้ว ระบบเองก็ยังมีจุดที่ต้องพัฒนาอีกมาก หากอยากจะรักษาผู้ใช้ให้คงอยู่ในระยะยาว
ที่มา:cryptonews

