ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เกิดคดีใหญ่ขึ้นในวงการคริปโต หลังจากที่ Coinbase เว็บเทรดชื่อดังจากสหรัฐฯ ทำข้อมูลผู้ใช้จำนวนมากรั่วไหลส่งผลทำให้เกิดความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า $400 ล้าน
แต่ล่าสุดสำนักข่าว Reuters พบว่า ต้นตอของการแฮ็กข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้จำนวน 69,000 คน มีที่มาจากพนักงานคนหนึ่งที่ประจำอยู่ในประเทศอินเดีย พร้อมกับผู้สมรู้ร่วมคิดอีกราย อ้างอิงข้อมูลจากอดีตพนักงานของ TaskUs จำนวน 5 ราย ที่ได้ขึ้นให้การต่อศาลแบบไม่เปิดเผยตัวตน
รายงานเปิดเผยว่า บริษัทเอาท์ซอร์สจากสหรัฐฯ อย่าง TaskUs ได้ทำการว่าจ้างพนักงานหญิงรายหนึ่งที่ทำงานอยู่ในประเทศอินเดีย โดยหารู้ไม่ว่าบุคคลที่ว่าจ้างมาจะทำการ ใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัวถ่ายภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ทำงาน รวมถึงคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ และส่งมอบข้อมูลให้กับแฮ็กเกอร์เพื่อรับค่าตอบแทน โดยมีบุคคลอีกรายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดให้การช่วยเหลือ ก่อนที่จะถูกจับได้ในเวลาถัดมา
ที่น่าสนใจเลยก็คือ อดีตพนักงานจำนวน 3 ราย และผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง ให้การกล่าวอ้างว่าพวกเขาได้แจ้งเตือนถึง Coinbase ในเรื่องของการโจรกรรมข้อมูลที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนมกราคม ทว่าทาง Coinbase กลับระบุว่าได้รับแจ้งปัญหาหลังจากที่เกิดเหตุการณ์อีเมลเรียกค่าไถ่เป็นเงิน $20 ล้าน ในเดือนพฤษภาคม
ทั้งนี้ ทาง Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ตามที่แฮ็กเกอร์เรียกร้อง และประเมินว่าจะต้องจ่ายเงินระหว่าง $180 ล้าน ถึง $400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแก้ไขปัญหา และชดเชยเงินคืนให้กับลูกค้า
ล่าสุด บริษัทได้ดำเนินการเชิงรุก โดยยุติความร่วมมือกับพนักงานของ TaskUs ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ต่างประเทศรายอื่น ๆ พร้อมประกาศเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ที่มา : The Dialy Hodl

