<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักเทรดจับตา! จีนประกาศแผนเตรียมเทขาย Bitcoin ที่ยึดมาผ่านกระดานเทรดฮ่องกง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

วงการคริปโทฯ กำลังจับตารัฐบาลจีน หลังมีรายงานว่าเตรียมเทขาย Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยึดได้จากคดีต่าง ๆ ผ่านเว็บเทรดที่มีใบอนุญาตในฮ่องกง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่หน่วยงานจีนแผ่นดินใหญ่ดำเนินการลักษณะนี้

แนวคิดริเริ่มนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง China Beijing Equity Exchange (CBEX) และหน่วยงานภายนอก เพื่อจัดการกับสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ โดยสินทรัพย์ที่ถูกยึดจะถูกแปลงเป็นเงินหยวนและฝากเข้าบัญชีที่กำหนด กระบวนการนี้เกิดขึ้นได้เพราะฮ่องกงได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำ ในขณะที่จีนยังคงบังคับใช้มาตรการสั่งห้ามการซื้อขายคริปโทฯ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

ยืนยันแล้ว! จีนถือครอง Bitcoin ที่ยึดมาได้ทะลุหลักแสน BTC

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า จีนถือครอง Bitcoin ประมาณ 194,000 BTC และ Ethereum อีกกว่า 833,000 ETH ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจำนวนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่ารวมของสินทรัพย์ที่ยึดมาได้พุ่งแตะ 430,700 ล้านหยวน หรือประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ณ สิ้นปี 2023 เพิ่มขึ้นกว่า 12 เท่าจากปีก่อนหน้า

รายงานยังสะท้อนให้เห็นแนวโน้มในระดับโลก โดยสหรัฐฯ ถือครอง Bitcoin ที่ยึดมาได้มากถึง 200,000 BTC ส่วนสหราชอาณาจักรมีมากกว่า 61,000 BTC สะท้อนให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังกลายเป็น “ของกลาง” ที่มีมูลค่ามหาศาลในหลายประเทศ

‘ฮ่องกง’ คือประตูสู่โลกคริปโทฯ ของจีน ?

แม้จีนแผ่นดินใหญ่จะยังคงใช้มาตรการห้ามการซื้อขายและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีอย่างเข้มงวด แต่การตัดสินใจเทขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านเว็บเทรดในฮ่องกง แสดงให้เห็นแนวทางการจัดการแบบ “คู่ขนาน” ระหว่างการควบคุมภายในประเทศและการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างที่เปิดกว้างของฮ่องกง

ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฮ่องกงได้พยายามสร้างภาพลักษณ์ของตนในฐานะศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก ทั้งในด้านการกำกับดูแล การส่งเสริมนวัตกรรม และการดึงดูดนักลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่จีนเริ่มเข้มงวดกับอุตสาหกรรมคริปโทฯตั้งแต่ปี 2017

นอกจากนี้ การเข้าร่วมของเจ้าหน้าที่จีนในเวทีประชุมด้านคริปโทฯ ในฮ่องกง ยังตอกย้ำบทบาทของฮ่องกงในฐานะพื้นที่ทดลอง (regulatory sandbox) ที่เปิดโอกาสให้ปักกิ่งสามารถศึกษาศักยภาพของสินทรัพย์ดิจิทัล ภายใต้กรอบกำกับดูแลที่ยืดหยุ่นมากกว่า

ที่มา:cryptopolitan