พอล แอตกินส์ (Paul Atkins) ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้กล่าวสุนทรพจน์ระหว่างการประชุมโต๊ะกลมของหน่วยงานพิเศษด้านคริปโตของ SEC (Crypto Task Force) ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ภายใต้หัวข้อ “ DeFi and the American Spirit” ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจน เพื่อสนับสนุนการเติบโตของโปรโตคอล DeFi ในประเทศ
พอล แอตกินส์ ตำหนิฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีไบเดน ที่พยายามใช้อำนาจของ SEC เพื่อกดดัน และขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยีคริปโตและ Web3 ที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นในสหรัฐฯ โดยกล่าวว่า:
“ผมขอบคุณเจ้าหน้าที่จากแผนกกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนของ SEC ที่ให้ความกระจ่างว่า การเข้าร่วมในเครือข่าย Proof-of-Work หรือ Proof-of-Stake ไม่ว่าจะเป็นในบทบาทของ นักขุด (miner), ผู้ตรวจสอบธุรกรรม (validator) หรือ ผู้ให้บริการ Staking-as-a-Service จะไม่ถูกจัดอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางอีกต่อไป”
พอล แอตกินส์ ได้เน้นย้ำถึง “สิทธิในการถือครองคริปโตด้วยตนเอง” (self-custody) ซึ่งเป็นค่านิยมสำคัญของชาวอเมริกัน และควรได้รับการส่งเสริมในวงการ DeFi โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่การมีตัวกลางในการทำธุรกรรม อาจสร้างภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หรือเป็นอุปสรรคต่อการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ บนเครือข่าย เช่น การ Staking
“ผมสนับสนุนให้ตลาดมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในเรื่อง การถือครองคริปโตด้วยตนเอง (self-custody) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การมีตัวกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เกิดต้นทุน หรือข้อจำกัดที่ไม่จำเป็น ในการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ บนบล็อกเชน”
พอล แอตกินส์ ยังเรียกร้องให้ ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) เร่งออกกฎระเบียบที่ชัดเจนสำหรับคริปโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ โปรโตคอล DeFi ที่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเองผ่าน smart contracts เพื่อลดความไม่แน่นอน และส่งเสริมนวัตกรรมในอุตสาหกรรมนี้
คำกล่าวของพอล แอตกินส์ คาดว่า จะส่งผลเชิงบวกอย่างมากต่อตลาด Altcoin โดยเฉพาะเหรียญอย่าง Ethereum (ETH) และ Solana (SOL) ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ ยังช่วยเปิดทางให้สถาบันการเงินรายใหญ่สามารถเข้ามาลงทุนในระบบนิเวศ DeFi ได้ง่ายขึ้น หากมีกรอบกฎหมายที่ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับ
หลังจากคำกล่าวของเขา ราคาของเหรียญในตลาด Altcoin ก็พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ “Altseason” รอบใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ที่มา : coinpedia

