Trident Digital Tech Holdings บริษัทจากสิงคโปร์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq ภายใต้ชื่อย่อ “TDTH” กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก หลังจากประกาศแผนจัดตั้ง คลังสำรอง XRP สำหรับองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่าสูงถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หลังจากการประกาศดังกล่าว ราคาหุ้นของบริษัท Trident (TDTH) ที่เคยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $0.45 ในช่องก่อนตลาดเปิด ร่วงลงอย่างรวดเร็วจนมีราคาต่ำกว่า $0.20 ซึ่งคิดเป็นการร่วงลงหนักถึง 38% และทำให้มูลค่าตลาดของบริษัทหายไปอย่างรวดเร็ว
Trident เปิดเผยว่า แผนดังกล่าวจะดำเนินการในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยจะระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ และได้รับการสนับสนุนด้านกลยุทธ์จาก Chaince Securities LLC เพื่อเข้าซื้อ XRP มาเป็นสินทรัพย์สำรองระยะยาว พร้อมนำไปใช้ในกิจกรรม staking และการมีส่วนร่วมในระบบนิเวศของ Ripple
แม้แนวคิดการถือ XRP เป็นสินทรัพย์สำรองจะเริ่มได้รับความสนใจจากองค์กรใหญ่หลายแห่ง แต่ในกรณีของ Trident กลับถูกตลาดตั้งคำถาม เนื่องจากสถานะทางการเงินของบริษัทที่ยังอ่อนแอ โดยรายงานผลขาดทุนกว่า 8.12 ล้านดอลลาร์ ในปี 2024 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 70% และมีมูลค่าตลาดปัจจุบันเพียง 28.8 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ SharpLink Gaming ก็เคยประกาศแผนจัดตั้งคลังสำรอง Ethereum ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นดิ่งลงกว่า 70% ในช่วงหลังตลาดปิดทันทีหลังการยื่นแบบฟอร์ม S‑3ASR
นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างของบริษัทอย่าง Upexi ที่ประกาศระดมทุน $100 ล้านเพื่อซื้อ Solana และแผนที่จะถือ SOL เป็นสินทรัพย์สำรอง ผลปรากฏว่าหุ้นพุ่งเฉียด 300% ในพรี-มาร์เก็ต แต่หลังจากนั้นก็ปรับตัวลดลง ชี้ให้เห็นถึงความผันผวนสูงเมื่อข่าวเชิงกลยุทธ์เผยแพร่ออกมา
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุนยังคง ไม่เชื่อมั่นในกลยุทธ์การตั้งคลังสำรองคริปโตของบริษัทจดทะเบียนขนาดเล็กหรือขนาดกลาง โดยเฉพาะในกรณีของเหรียญที่ไม่ใช่ Bitcoin ซึ่งยังไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้างในฐานะ “สินทรัพย์สำรององค์กร” แบบเดียวกับ BTC
แม้การประกาศแผนตั้งกองทุนถือครอง Ethereum, Solana หรือ XRP จะดูน่าตื่นเต้นในเชิงกลยุทธ์ แต่ตลาดมักตอบสนองด้วยความระแวง เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มักมีฐานะทางการเงินไม่มั่นคงพอ เมื่อข่าวออก หุ้นอาจพุ่งขึ้นจากแรงเก็งกำไรในระยะสั้น แต่ตามมาด้วยแรงเทขายทันทีจากผู้ถือหุ้นที่ไม่มั่นใจในความยั่งยืนของแผนดังกล่าว
ที่มา:blockhead

