สัปดาห์นี้ รัฐสภาเวียดนามเพิ่งผ่านร่างกฎหมาย Digital Technology Industry Law หรือกฎหมายอุตสาหกรรมเทคดิจิทัลโดยยอมรับ “สินทรัพย์ดิจิทัล” อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เวียดนามให้สถานภาพทางกฎหมายกับคริปโตฯ โดยกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2026
ภายใต้กฎหมายดังกล่าว สินทรัพย์ดิจิทัลจะถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ “สินทรัพย์คริปโต” (Crypto Assets) และ “สินทรัพย์เสมือน” (Virtual Assets) ซึ่งมีลักษณะการใช้งานและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ในส่วนของ สินทรัพย์คริปโต นั้นถูกนิยามว่าเป็นเครื่องมือดิจิทัลที่พัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัส (cryptography) และเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการสร้าง การออก การจัดเก็บ และการโอนโทเคนหรือเหรียญดิจิทัลที่ใช้ยืนยันตัวตนหรือความเป็นเจ้าของบนระบบที่กระจายศูนย์ (decentralized network) ซึ่งครอบคลุมสินทรัพย์อย่าง Bitcoin, Ethereum และโทเคนอื่น ๆ บนเครือข่ายบล็อกเชน
ขณะที่ สินทรัพย์เสมือนคือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการซื้อขายหรือการลงทุนเป็นหลัก แต่ไม่ได้อิงกับระบบบล็อกเชนหรือมีฟังก์ชันการเข้ารหัสในระดับที่ใช้ยืนยันธุรกรรมแบบ decentralized ตัวอย่างเช่น เหรียญในแอป เกม หรือแพลตฟอร์มที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ในระบบบล็อกเชนโดยตรง
ทั้งนี้ กฎหมายระบุอย่างชัดเจนว่า สินทรัพย์เสมือน จะไม่ครอบคลุม ถึงเครื่องมือทางการเงินที่ถูกควบคุมโดยกฎหมายการเงินแบบดั้งเดิม เช่น หลักทรัพย์ (securities), stablecoins, สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDCs) หรือผลิตภัณฑ์การเงิน DeFi ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรง
กฎหมายดังกล่าวไม่ได้เพียงแค่รับรองสินทรัพย์ดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังให้อำนาจรัฐบาลเวียดนามในการจัดประเภทของสินทรัพย์เหล่านี้อย่างเป็นทางการ พร้อมกำหนดเงื่อนไขในการดำเนินธุรกิจ และดูแลการทำงานของผู้ให้บริการในระบบนิเวศคริปโตทั้งหมดอย่างเป็นระบบ
นอกจากนี้ ตัวกฎหมายยังบังคับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรฐาน AML (การป้องกันการฟอกเงิน) และ CTF (การต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย) อย่างเข้มงวด เพื่อรักษาความโปร่งใสและความปลอดภัยของระบบคริปโตในเวียดนาม ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการพัฒนาระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในระดับสากล
กฎหมายฉบับนี้ยังถือเป็นรากฐานสำคัญในการผลักดันเวียดนามสู่การเป็นประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยี โดยมีการแนะนำให้รัฐวางนโยบายเพื่อส่งเสริมการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และเร่งการเติบโตในภาคส่วนที่มีศักยภาพสูงอย่าง AI (ปัญญาประดิษฐ์), เซมิคอนดักเตอร์, และอุตสาหกรรมการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง
รายงานระบุว่า บริษัทเทคโนโลยีที่ดำเนินงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดิจิทัลหรือระบบคอมพิวเตอร์ขั้นสูงจะได้รับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ เช่น การสนับสนุนด้าน วิจัยและพัฒนา (R&D), การจัดฝึกอบรมบุคลากร, และการร่วมสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ
แนวทางที่ครอบคลุมเช่นนี้สอดรับกับเป้าหมายของเวียดนามในการยกระดับประเทศให้กลายเป็นผู้เล่นระดับภูมิภาคในเศรษฐกิจดิจิทัล ข้อมูลจาก Chainalysis ระบุว่า เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 5 ของโลกในแง่ของการยอมรับคริปโต ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการใช้งานภายในประเทศที่เข้มข้น
นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมเชื่อว่า การมีกฎหมายชัดเจนจะช่วยให้เวียดนามสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้มากขึ้น และแข่งขันในระดับนานาชาติได้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศผู้นำด้านบล็อกเชนในเอเชียอย่าง สิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นโมเดลที่หลายประเทศพยายามเดินตาม
ที่มา : Beincrypto