<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Arthur Hayes ฟันธง ! IPO ของ Circle เป็นจุดเริ่มต้น “ฟองสบู่ Stablecoin” ที่จะพังตลาดคริปโทฯ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ BitMEX ออกมาเตือนว่า วงการคริปโทฯ กำลังก้าวเข้าสู่สมรภูมิที่เต็มไปด้วยอันตราย โดยเขามองว่าการที่ Circle เสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก (IPO) เป็นจุดเริ่มต้นของเทรนด์การสร้างเหรียญ Stablecoin ใหม่ๆ ที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ 

ในบทความล่าสุดของ Arthur Hayes – “Assume the Position” เขาได้เตือนนักลุงทุนไม่ให้หลงไปกับกระแสโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับบริษัท Stablecoin ที่กำลังจะจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหุ้น 

ตามการวิเคราะห์ของ Hayes การ IPO เข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ของ Circle ถือเป็นเหตุการณ์ที่จะจุดชนวนฟองสบู่ และฟองสบู่ลูกนี้ จะจบลงด้วยมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่สูญหายวับไปในพริบตา

Hayes วิจารณ์ว่า Jeremy Allaire ซีอีโอของ Circle ยอมอยู่ภายใต้อำนาจของ Brian Armstrong ซีอีโอของ Coinbase เนื่องจาก Circle ต้องแบ่งกำไรสุทธิจากดอกเบี้ยมากถึงครึ่งหนึ่งให้ Coinbase เพื่อแลกกับเร่งขยายการใช้งาน USDC ในตลาด ซึ่ง Hayes มองว่าเป็นการดิ้นเฮือกสุดท้าย เพราะยังไงก็ไม่มีทางไล่ตาม Tether ทันอยู่ดี 

Hayes อธิบายว่า นักเทรดคริปโทฯ มืออาชีพจำเป็นต้องเข้าใจกระแสการไหลของเงิน Fiat อย่างถ่องแท้ เพราะแพลตฟอร์มคริปโทจำนวนมากยังอยู่ใน “พื้นที่สีเทา” ทางกฎหมาย ไม่ได้ถูกกำกับแบบชัดเจน ส่งผลให้การฝากหรือถอนเงิน Fiat จากระบบพวกนี้ยุ่งยาก จะเอาเงินเข้าก็ไม่ง่าย จะเอาออกก็ต้องมีขั้นตอนเข้มงวด

ฟองสบู่ Stablecoin ลูกใหม่กำลังก่อตัว 

Hayes คาดว่าต่อไปจะมีบริษัทใหม่ ๆ แห่กันออก Stablecoin แล้วเลียนแบบแนวทางของ Circle เพื่อทำการ IPO เพราะหวังจะหาเงินเข้ากระเป๋าแบบเร็ว ๆ พวกนี้จะใช้วิธี “เล่นท่ายาก” ทั้งเอาเงินกู้มาอัด (ใช้เลเวอเรจ), ทำแคมเปญการตลาดเว่อร์ ๆ, หรือใช้กลยุทธ์ทางการเงินซับซ้อนเพื่อปั่นมูลค่าให้ดูดี

แต่ Hayes เชื่อว่าสุดท้ายโปรเจกต์เหล่านี้ก็จะล้มเหลวอยู่ดี เพราะไม่มี ช่องทางป้อนเหรียญเข้าสู่ตลาดจริง ต่อให้สร้าง Stablecoin ได้ แต่ถ้าเหรียญไม่กระจายไปถึงมือคนใช้งานจริงผ่านเว็บเทรด, โซเชียลมีเดียระดับโลก หรือธนาคารที่คนทั่วไปใช้อยู่แล้ว ก็จะทำธุรกิจไม่ได้ และเจ๊งแน่นอน

ส่วนฝั่งของธนาคารแม้จะเปิดรับ Stablecoin พวกเขาก็จะเลือกทำระบบใช้เองในบ้านตัวเอง ไม่เอาเหรียญจากบริษัทภายนอกมาใช้อยู่ดี เช่นเดียวกับบริษัท โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ที่จะไม่เลือกใช้เหรียญคนอื่นเหมือนกัน ซึ่งพวกเขาอาจออก Stablecoin ของตัวเอง แบบที่ Facebook เคยทำกับ Libra แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวลงไป เพราะเจอแรงต้านจากรัฐบาลทั่วโลก

ที่มา:cryptopolitan