ราคา Bitcoin ร่วงดิ่งทะลุแนวรับสำคัญที่ 104,000 ดอลลาร์อีกครั้งในช่วงดึกเมื่อวานที่ผ่านมา (17 มิถุนายน) ท่ามกลางความกังวลที่ปะทุขึ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ที่ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ข้อมูลจาก TradingView เผยให้เห็นว่า กราฟราคา BTC/ USDT บนเว็บเทรด Binance ได้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ที่ประมาณ $103,371 เมื่อเวลาประมาณ 23:30 น. ของวันที่ 17 มิถุนายน ตามเวลาไทย ก่อนที่จะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 105,000 ดอลลาร์ได้เล็กน้อยในช่วงเช้าของวันถัดมา
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดยังคงอยู่ในภาวะยังคงเปราะบาง และนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ชี้ทิศทางของตลาดในระยะสั้น
นักวิเคราะห์หลายรายคาดว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงในครั้งนี้ มาจากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่อาจลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งทางทหารอย่างเต็มรูปแบบ
โดยในช่วงวันที่ 16–17 มิถุนายนที่ผ่านมา อิหร่านได้ตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลด้วยการยิงขีปนาวุธและส่งโดรนโจมตีมากกว่า 400 ลูก ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลและโดรนกามิกาเซ่ที่พุ่งเป้าไปยังเมืองสำคัญของอิสราเอล เช่น เทลอาวีฟและไฮฟา โดยมีรายงานความเสียหายทั้งในภาคประชาชนและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงมีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 8 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
แม้ว่าอิสราเอลจะสามารถใช้ระบบป้องกันภัยทางอากาศ Iron Dome, David’s Sling และ Arrow-3 สกัดการโจมตีได้กว่า 90% ของขีปนาวุธและโดรนทั้งหมดที่ถูกยิงเข้ามา แต่การโจมตีขนาดใหญ่ในครั้งนี้ก็สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนทั่วโลกอย่างมาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีการใช้อาวุธหนักจำนวนมากเช่นนี้ระหว่างสองประเทศ และยังไม่มีสัญญาณว่าทั้งสองฝ่ายจะยอมลดระดับความขัดแยงลงในเร็ววัน ทำให้ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์พุ่งสูงขึ้น และกดดันให้ตลาดเข้าสู่ภาวะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอย่างเต็มรูปแบบ
ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว นักลงทุนจำนวนมากได้เลือกโยกเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะ Bitcoin ซึ่งมักจะถูกเทขายก่อนในช่วงที่ตลาดเข้าสู่ภาวะไม่แน่นอนและหันไปถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยแทน ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงินสด หรือพันธบัตรรัฐบาล
ด้านดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear & Greed Index) ของตลาดคริปโตล่าสุด อยู่ที่ระดับ 53 จุด สะท้อนถึงภาวะ “เป็นกลาง” (Neutral) ของนักลงทุนในช่วงเวลานี้ โดยคะแนนดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าตลาดยังไม่ได้เอนเอียงไปทางฝั่ง “ความกลัว” หรือ “ความโลภ” อย่างชัดเจน แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของนักลงทุนที่ยังคงลังเลว่าจะเข้าซื้อหรือรอให้ราคาย่อลึกลงกว่านี้ก่อน ทั้งนี้ภาวะ Neutral แบบนี้มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดกำลังรอปัจจัยใหม่ หรือข่าวสำคัญที่อาจส่งผลต่อการเลือกทิศทางของราคา Bitcoin ในระยะสั้น
ทั้งนี้ ตลาดกำลังจับตาการประชุมเฟด ซึ่งจะมีขึ้นในคืนนี้ เวลาตี 1 ตามเวลาไทย โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี หากถ้อยแถลงของ Fed มีน้ำเสียงเข้มงวดมากกว่าคาด อาจสร้างแรงกดดันต่อราคาบิตคอยน์ให้ย่อตัวลงต่อ แต่หาก Fed ส่งสัญญาณผ่อนคลายมากขึ้นก็อาจเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนให้ตลาดคริปโตฟื้นตัวขึ้นมาได้ในระยะสั้น
ในภาวะที่ตลาดรอความชัดเจนเช่นนี้ นักลงทุนจำนวนมากจึงยังคงเลือก “ตั้งรับ” มากกว่าจะ “ลุยซื้อ” โดยเฉพาะในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทั้งจากปัจจัยเศรษฐกิจและความตึงเครียดระดับภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนจึงควรติดตามผลการประชุม Fed อย่างใกล้ชิด พร้อมวางแผนรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นทันทีหลังการประกาศนโยบายในค่ำคืนนี้