Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX ออกมาแสดงความเห็นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) เตรียมพิมพ์เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอเมริกันอย่างมหาศาล โดยคาดว่าตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงปี 2028 จะมีการอัดฉีดสภาพคล่องราว 9 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบ
Hayes ให้สัมภาษณ์ในรายการ David Lin Report โดยระบุว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะเริ่มไหลเข้าสู่ภาคเศรษฐกิจดั้งเดิมก่อน แล้วจึงจะค่อยๆ ซึมซับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin (BTC) ในภายหลัง
“และผมคิดว่าธนาคารจะเริ่มคลายตัว เนื่องจากพวกเขาไม่ต้องถือทุนมากขนาดนั้นอีกต่อไป ทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นสู่เศรษฐกิจจริงของอเมริกา คุณจะเห็นเงินทุนไหลเข้าสู่ภาคการผลิต และเมื่อเกิดการเพิ่มขึ้นของเครดิตแบบนี้ ก็จะส่งผลถึงคริปโตเช่นกัน”
Hayes ยังมองว่า Bitcoin มีโอกาสพุ่งขึ้นถึง 139% จากระดับราคาปัจจุบันภายในสิ้นปีนี้ และหากเป็นไปตามแผน เขาคาดว่าในปี 2028 ราคาของ Bitcoin อาจแตะระดับ 1 ล้านดอลลาร์
“ผมคิดว่าเราจะเห็น Bitcoin แตะ 250,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี มันอาจจะมีความผันผวนระหว่างทางบ้าง แต่เป้าหมายปลายปีของผมคือระดับนั้น และเป้าหมายระยะยาวคือ 1 ล้านดอลลาร์”
สำหรับเหตุผลที่ Bitcoin จะสามารถแซงหน้าสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ Hayes ให้เหตุผลว่า
“Bitcoin มีอุปทานที่จำกัด และตลาดยังเล็กมากเมื่อเทียบกับมูลค่ารวมของสินทรัพย์ในโลก เมื่อลูกค้าจำนวนมากแห่กันเข้าประตูบานเล็ก ราคาก็จะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด นี่คือเหตุผลที่ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา”
อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรที่จะศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: DailyHODL