Paolo Ardoino CEO ของ Tether เปิดเผยกับ CNBC ว่า บริษัทได้กลายเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุดในโลกในระดับองค์กร โดยถือครองมูลค่าสูงถึง 125,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากเปรียบเทียบระดับประเทศ บริษัท Tether จะอยู่อันดับที่ 18 ของโลก และยังเป็นผู้ซื้อรายใหญ่อันดับ 5 ของปี 2024
เสริมความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์ดิจิทัลในเศรษฐกิจโลก
Tether มองว่าการถือครองพันธบัตรนี้คือกลยุทธ์เพื่อเสริมความมั่นคงให้กับ Stablecoin USDT ซึ่งถูกผูกกับมูลค่าเงินดอลลาร์ และใช้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างระบบการเงินกระจายศูนย์ ( DeFi) กับการเงินแบบดั้งเดิม
Ardoino ระบุว่า การเติบโตของสินทรัพย์สำรองดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้ “ผู้คนหลายร้อยล้านคนสามารถเข้าถึงเงินดอลลาร์ได้ง่ายขึ้น” ซึ่งขณะนี้ Tether ประเมินว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทเข้าถึงผู้คนแล้วกว่า 420 ล้านคนทั่วโลก
Stablecoins และ Bitcoin จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งขึ้น
Ardoino ยังเน้นว่าการเติบโตของ Stablecoin และ Bitcoin ไม่ได้เป็นภัยต่อระบบการเงิน แต่กลับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงดอลลาร์ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ธนาคารยังเข้าไม่ถึงคนอีกจำนวนมาก
เขาแสดงความสนับสนุนต่อการออกกฎหมายใหม่ เช่น GENIUS Act ที่อยู่ระหว่างพิจารณาในสภาคองเกรส ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้กฎเกณฑ์การใช้ stablecoin ชัดเจนและสนับสนุนการใช้งานในระดับสถาบัน
ย้ำบทบาท Stablecoin ในการเชื่อมโลกการเงิน
การเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพอร์ตของ Tether ไม่เพียงตอกย้ำความโดดเด่นของ USDT ในตลาด Stablecoin ที่มีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ แต่ยังสะท้อนถึงการ หลอมรวมระหว่างโลกคริปโตกับเศรษฐกิจดั้งเดิม ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
แม้ Tether จะเผชิญแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ แต่บทบาทของบริษัทในระบบการเงินโลกก็ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และกำลังกลายเป็น “เสาหลัก” ทางการเงินในโลกดิจิทัล
Source: Cryptodnes