<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ใช้ ChatGPT ยังไงให้ได้กลยุทธ์คริปโต! วิเคราะห์สัญญาณ เทรนด์ และข้อมูลเชิงลึกแบบมือโปร

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในโลกของการลงทุนคริปโต การตามเทรนด์ให้ทันไม่ใช่แค่เรื่องที่ดี แต่เป็นเรื่องที่ “ต้องทำ” เพราะตลาดนี้มีเหรียญให้เลือกลงทุนเป็นพัน ๆ เหรียญ ราคาก็ขึ้นลงตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด แถมยังมีปัจจัยเศรษฐกิจจากทั่วโลกเข้ามากระทบแบบเรียลไทม์ ทำให้การวิเคราะห์ตลาดคริปโตกลายเป็นเรื่องที่ทั้งซับซ้อนและผันผวนสุด ๆ วิธีเดิม ๆ ที่นักลงทุนเคยใช้กันมักตามไม่ทัน วิเคราะห์ก็ไม่ลึกพอ แถมยังแปลงข้อมูลมหาศาลให้กลายเป็นข้อมูลที่ใช้ได้จริงในเวลาสั้น ๆ ไม่ได้อีกต่างหาก

แต่วันนี้เรามีผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง ChatGPT ที่ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาเปลี่ยนเกม ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอ่านกราฟเทคนิคซับซ้อน ๆ หรือจับสัญญาณความเคลื่อนไหวของตลาดจากข่าวและโซเชียลมีเดีย ChatGPT ก็สามารถสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ และใช้งานได้จริง

ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปลองใช้ ChatGPT เป็นตัวช่วยวิเคราะห์การลงทุนคริปโต ตั้งแต่ดึงข้อมูลเชิงลึก วางแผนกลยุทธ์ ไปจนถึงลองตั้งสมมติฐานการเคลื่อนไหวของราคาแบบเรียลไทม์จากทั้งอดีตและอารมณ์ตลาด ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มหรือเทรดมาแล้วหลายปี ChatGPT กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่นักลงทุนสายคริปโตไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด

สเต็ปที่ 1: กำหนดเป้าหมายของคุณให้ชัดเจน 

ก่อนจะพิมพ์คำสั่ง (Prompt) อะไรก็ตาม ลองถามตัวเองก่อนว่าคุณต้องการอะไรจาก ChatGPT จริงๆ? คุณอยากรู้ไหมว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการเข้าสู่ตลาดรึเปล่า? กำลังค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเหรียญหรือเทรนด์ไหนเป็นพิเศษ? หรือกำลังออกแบบอัลกอริทึมการเทรดตัวใหม่? ยิ่งเป้าหมายของคุณชัดเจนมากเท่าไหร่ AI ก็จะยิ่งตอบสนองได้อย่างแม่นยำและตรงจุดมากขึ้นเท่านั้น

สเต็ปที่ 2: ป้อนคำสั่งที่มีโครงสร้างชัดเจน

หัวใจสำคัญของ ChatGPT อยู่ที่คุณภาพของ Prompt ที่คุณป้อนเข้าไป ควรเป็นคำสั่งแบบเฉพาะเจาะจงและกระชับเข้าไว้ เช่น แทนที่จะถามลอยๆ ก็ลองใช้คำสั่งแบบนี้ดูครับ: “วิเคราะห์แนวโน้มราคา BTC ล่าสุด โดยใช้ข้อมูลในอดีตและค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือ สรุปความรู้สึกของตลาด Ethereum จาก X, Reddit และบทความข่าวคริปโตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา” หรือ “สร้างกลยุทธ์การเทรดแบบ Scalping โดยใช้ RSI, MACD และช่วงเวลากราฟ 15 นาที” 

ยกตัวอย่างง่ายๆ เลย ถ้าคุณอยากให้ ChatGPT สร้างบอทเทรดให้ทำการซื้อขายเฉพาะตอนที่ RSI ต่ำกว่า 30 และ MACD แสดงสัญญาณ Divergence เจ้า AI ตัวนี้ ไม่ได้เพียงแค่สร้างโค้ด Pine Script ให้คุณเท่านั้น แต่ยังมีการแนะนำให้คุณเพิ่มตัวกรองปริมาณซื้อขาย (Volume) เพื่อลดการเกิดสัญญาณหลอก (False Signals) อีกด้วย 

สคริปต์ที่คุณได้ก็จะช่วยสแกนหาจังหวะซื้อที่น่าสนใจ โดยเฉพาะช่วงที่ตลาดโดนเทขายแรงเกินจริง แล้วเริ่มมีสัญญาณว่า โมเมนตัมกำลังกลับตัวขึ้น มันจะเช็กว่าราคาทำจุดต่ำสุดหรือยัง โมเมนตัมที่วัดจาก MACD ดีขึ้นไหม และ RSI ยังอยู่ในโซนต่ำอยู่หรือเปล่า ถ้าทุกอย่างตรงตามเงื่อนไข ระบบก็จะส่งสัญญาณเข้าซื้อในจังหวะที่น่าจะเกิดการรีบาวด์ขึ้นมาให้คุณ

สเต็ปที่ 3: วิเคราะห์ตัวชี้วัดแบบเจาะลึก

ChatGPT สามารถช่วยคุณตีความตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ซับซ้อนได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Relative Strength Index (RSI), Bollinger Bands, Fibonacci retracements, Moving Average Convergence/Divergence (MACD) และอื่นๆ อีกเพียบ แม้ว่ามันจะไม่สามารถเข้าถึงกราฟแบบเรียลไทม์ได้ แต่คุณสามารถป้อนข้อมูลสำคัญๆ เข้าไปได้ 

ตัวอย่างเช่น “BTC RSI อยู่ที่ 72 และ MACD เพิ่งส่งสัญญาณ bullish crossover โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น สิ่งนี้บ่งบอกถึงอะไร?” หลังจากนั้น ChatGPT จะวิเคราะห์เงื่อนไขทางเทคนิคและให้คำอธิบายเชิงตรรกะว่าสัญญาณเหล่านั้นหมายถึงอะไรบ้าง

สเต็ปที่ 4: ประเมินความรู้สึกของผู้คนในตลาดอย่างแม่นยำ 

ตลาดคริปโตขึ้นอยู่กับ “ความรู้สึก” (Sentiment) ของผู้คน ทั้งความกลัว ความตื่นเต้น และ FOMO สามารถผลักดันราคาได้มากกว่าปัจจัยพื้นฐานเสียอีก ChatGPT สามารถช่วยคุณประเมินอารมณ์โดยรวมของตลาดได้ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดที่คุณให้ไป หรือเนื้อหาที่คุณดึงมาจากแหล่งต่างๆ เช่น “สรุปความรู้สึกของตลาด DOGE ตามโพสต์ X และความคิดเห็นใน Reddit ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา”

สเต็ปที่ 5 : Backtest กลยุทธ์การเทรด (เชิงแนวคิด) 

แม้ว่า ChatGPT จะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อทำการ Backtest ทางสถิติที่ซับซ้อน แต่มันก็เก่งกาจในการตรวจสอบแนวคิดของกลยุทธ์ คุณสามารถอธิบายกลยุทธ์ที่คุณวางแผนไว้ แล้วขอให้มันจำลองสถานการณ์ว่า กลยุทธ์นั้นจะทำงานอย่างไรภายใต้เงื่อนไขในอดีตที่แตกต่างกัน เช่น “Backtest กลยุทธ์ Moving Average Crossover บน ETH ตั้งแต่ปี 2020 ถึง 2023 โดยใช้การตั้งค่า 50/200 วัน”

ChatGPT จะจำลองผลลัพธ์โดยอิงตามสมมติฐานในอดีต และอธิบายจุดแข็งจุดอ่อนให้คุณเข้าใจ แต่จำไว้เสมอว่า เพื่อความแม่นยำเชิงตัวเลข ควรนำผลลัพธ์นี้ไปตรวจสอบซ้ำด้วยซอฟต์แวร์ Backtest จริงอีกครั้ง

สเต็ปที่ 6 : ใช้ ChatGPT ช่วยเราจำลองสถานการณ์และคาดการณ์ผลลัพธ์

ลองป้อนสถานการณ์สมมติที่เราคิดขึ้นมาเอง แล้วถามมันว่า “ถ้าเป็นแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดคริปโต?” ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราถามว่า “จะเกิดอะไรขึ้นกับ Bitcoin ถ้าเงินเฟ้อของอเมริกาพุ่งไป 8% แล้วอัตราดอกเบี้ยขึ้น 1.5% ล่ะ?” 

ChatGPT ก็จะตอบมาทันทีว่า Bitcoin อาจจะเจอแรงกดดันระยะสั้นเพราะเงินหมุนเวียนน้อยลง แต่ในระยะยาวก็อาจจะกลายเป็นที่น่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันเงินเฟ้อได้ หรือเราจะลองถามเรื่องอื่นก็ได้ อย่างเช่น “ลองคาดการณ์ราคา SOL ในระยะสั้น โดยดูจากพฤติกรรมของนักลงทุนรายใหญ่ และการเปลี่ยนแปลงของปริมาณซื้อขาย” 

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ ChatGPT จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่อ้างอิงจากข้อมูลในอดีตและแนวโน้มความรู้สึกต่างๆ เท่านั้น ไม่ใช่การทำนายอนาคตแบบ 100% หรือการคำนวณทางสถิติแบบเรียลไทม์ เพราะฉะนั้นเราต้องใช้วิจารณญาณประกอบด้วยเสมอ

ข้อดีของ ChatGPT

การใช้ ChatGPT มีข้อดีหลายอย่าง เช่น เข้าถึงง่าย ไม่ต้องเขียนโค้ดก็สามารถถามคำถามและรับคำตอบเชิงลึกได้ภายในไม่กี่วินาที สามารถปรับแต่งตามสไตล์การเทรดของแต่ละคน ไม่ว่าจะสาย HODL หรือ Scalping และสามารถให้มุมมองวิเคราะห์ได้จากทั้งความรู้ด้านเทคนิคคัล (Technical) , พื้นฐาน (Fundamental)หรืออารมณ์ของตลาด (Sentiment) 

ข้อเสียของ ChatGPT

ส่วนข้อจำกัดคือ ChatGPT ไม่สามารถดึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ด้วยตัวมันเอง เว้นแต่จะเชื่อมต่อกับ API หรือปลั๊กอิน และมันไม่ใช่คำแนะนำทางการเงินที่ผ่านการรับรอง อีกทั้งยังไม่สามารถตรวจสอบความแม่นยำเชิงตัวเลขได้ ต้องมีการตรวจสอบซ้ำจากแหล่งข้อมูลภายนอกเสมอ

แต่ถ้าอยากให้ ChatGPT มีศักยภาพสูงสุด การเชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่นๆ อย่าง CoinGecko, CoinMarketCap หรือ TradingView จะช่วยเสริมข้อมูลแบบเรียลไทม์และกราฟที่แม่นยำ รวมถึงการนำข้อมูลจาก Glassnode, CryptoQuant, LunarCrush หรือ Santiment มาให้ ChatGPT วิเคราะห์ต่อในเชิงลึก 

นอกจากนี้ เมื่อใช้คู่กับปลั๊กอินหรือระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ChatGPT จะกลายเป็นเทพผู้ช่วยด้านการวิเคราะห์คริปโต พร้อมเสริมกลยุทธ์ให้คุณในทุกสถานการณ์

ที่มา:cointelegraph