<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CANTOR Fitzgerald วางแผนซื้อ Bitcoin มูลค่า $3,500 ล้าน จากบริษัท Blockstream ของ Adam Back

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Cantor Fitzgerald บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้ายเพื่อเข้าซื้อ Bitcoin มูลค่ากว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์จากบริษัท Blockstream Capital ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดย Adam Back 

ซึ่ง Adam Back เขาเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Bitcoin โดยผลงานด้านคริปโตกราฟีชื่อ “Hashcash” ที่เขาพัฒนาขึ้นในปี 1997 เคยถูกอ้างอิงโดย Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin และกลายเป็นรากฐานของระบบฉันทามติแบบ Proof-of-Work ที่ Bitcoin ใช้อยู่ในปัจจุบัน

ตามรายงานจาก Financial Times และ Bloomberg ระบุว่า ดีลดังกล่าวจะเกิดขึ้นผ่านการควบรวมกิจการแบบ SPAC (Special Purpose Acquisition Company) โดยใช้บริษัทชื่อว่า Cantor Equity Partners 1 ที่ระดมทุนได้ 200 ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

Brandon Lutnick วัย 27 ปี ลูกชายของ Howard Lutnick รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ คนปัจจุบัน เป็นผู้ดำเนินการดีลนี้ ผ่านบริษัทของเขา โดยคาดว่า บริษัท Blockstream จะนำ Bitcoin จำนวนสูงสุดถึง 30,000 BTC หรือมูลค่าราว 3.5 พันล้านดอลลาร์ มาแลกเปลี่ยนเป็นหุ้นในนิติบุคคลใหม่ที่ชื่อว่า BSTR Holdings ซึ่งจะถือเป็นบริษัทใหม่หลังการควบรวม

ข้อตกลงนี้ยังรวมถึงแผนการระดมทุนเพิ่มเติมอีก 800 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนภายนอก เพื่อใช้ในการเข้าซื้อ Bitcoin ในอนาคตอีกด้วย โดยรายงานระบุว่า ดีลนี้อาจบรรลุข้อตกลงได้ภายในสัปดาห์นี้ แต่เงื่อนไขต่างๆ ยังคงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

Brandon Lutnick (ซ้าย) กำลังร่วมฉลองวันเกิดของ Howard Lutnick (ขวา) ผู้เป็นพ่อ ที่มา Brandon Lutnick 

หากดีลนี้สำเร็จ บริษัท Cantor Fitzgerald จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ซื้อ Bitcoin รายใหญ่ที่สุดของโลก และรายงานยังระบุว่า ยอดรวมการซื้อคริปโตของ Cantor Fitzgerald  จากสองบริษัทในเครือ คือ BSTR Holdings และ Twenty One Capital อาจสูงถึงเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปีนี้ เลยทีเดียว

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้เกิดขึ้น หลังจากที่ Cantor Fitzgerald ได้ทำข้อตกลงคริปโตมูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์ ร่วมกับ SoftBank และ Tether เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อจัดตั้งบริษัทสำหรับซื้อ Bitcoin โดยเฉพาะ 

ขณะเดียวกัน Brandon Lutnick ก็เพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทในเดือนกุมภาพันธ์ หลังพ่อของเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ด้านการค้าภายใต้รัฐบาลทรัมป์

ท่าทีของบริษัท Cantor แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มใหม่ของบริษัทด้านการเงินที่เริ่มหันมาใช้กลยุทธ์การ “สะสม Bitcoin ต่อหุ้น (BTC per share)” แทนการวัดผลแค่รายได้ต่อหุ้นแบบเดิม 

โดยบริษัท Twenty One Capital ก็มีเป้าหมายชัดเจนที่จะเดินตามรอยกลยุทธ์ของ Michael Saylor และบริษัท Strategy ที่สามารถสะสม Bitcoin ได้มูลค่ารวมกว่า70,000 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2020

ที่มา : cointelegraph