Ether (ETH) กำลังแสดงความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน โดยสามารถกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ และได้สร้างจุดสูงสุดใหม่สำหรับสัปดาห์ที่ 3,126 ดอลลาร์ในวันอังคารที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นสวนทางกับราคาของ Bitcoin ที่ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 116,500 ดอลลาร์ในวันเดียวกัน
ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการพุ่งขึ้นของ Ether อาจมาจากการหมุนเวียนเงินทุน (Capital Rotation) ออกจาก Bitcoin บริษัทวิเคราะห์ Swissblock ตั้งข้อสังเกตว่า โดยปกติแล้วช่วงการขยายตัวในภาวะกระทิงของ Bitcoin จะกินเวลาประมาณ 15 ถึง 30 วัน และเนื่องจากการปรับตัวขึ้นรอบปัจจุบันได้ดำเนินมาถึงวันที่ 12 แล้ว จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเริ่มมีการเทขายทำกำไรใน BTC และโยกย้ายเงินทุนมายังตลาด Altcoin โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ETH สัญญาณนี้สะท้อนอย่างชัดเจนในคู่เทรด ETH/BTC ซึ่งกราฟรายวันได้เกิดการกลับตัวเป็นขาขึ้น (bullish break of structure) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม และยังสามารถกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันได้เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปี ซึ่งเป็นสัญญาณของความแข็งแกร่งในระยะกลางถึงระยะยาว นอกจากนี้ นาย Ted Pillows ผู้สนับสนุน ETH ยังชี้ว่าดัชนี RSI รายสัปดาห์ของ ETH/BTC ได้ทะลุกรอบแนวโน้มขาลงที่ดำเนินมานานถึง 3 ปีแล้ว
ในมุมมองที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้น นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ Merlijn The Trader ได้โพสต์การวิเคราะห์เชิง Fractal ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบรูปแบบราคาในอดีต โดยชี้ว่าวัฏจักรของ ETH ในปัจจุบันอาจกำลังดำเนินรอยตามวัฏจักรของ Bitcoin ในช่วงปี 2018–2021 การวิเคราะห์นี้คาดการณ์ว่าราคา ETH อาจเข้าสู่ “ช่วงทะยานแนวดิ่ง” (vertical phase) ที่อาจพุ่งขึ้นถึง 1,110% จากจุดต่ำสุดในเดือนเมษายน และมีโอกาสไปถึงระดับราคาประมาณ 18,205 ดอลลาร์สหรัฐได้ อย่างไรก็ตาม บทความต้นทางได้ย้ำว่าการวิเคราะห์แบบ Fractal ยังคงเป็นเพียงการคาดการณ์ที่ขาดการตรวจสอบเชิงประจักษ์และมีความไม่แน่นอนสูง
ขณะที่นักวิเคราะห์อีกรายอย่าง Daan Crypto ได้ใช้แนวทางเชิงเทคนิคที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยระบุว่าเป้าหมายในระยะสั้นของ ETH คือระดับราคา 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ราคาสามารถเข้าสู่ครึ่งบนของกรอบการเคลื่อนไหวในรอบ 18 เดือนได้สำเร็จ เขากล่าวผ่านโพสต์บน X ว่า “$2.8K & $4K คือระดับราคาเดียวที่คุณต้องให้ความสำคัญในไทม์เฟรมใหญ่ นอกเหนือจากนั้นเป็นเพียงสัญญาณรบกวน”
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน เนื้อหานี้เป็นการสรุปและรวบรวมบทวิเคราะห์จากสื่อหลายสำนัก เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน
ที่มา: cointelegraph