<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

บิ๊กคริปโตเข้าทำเนียบขาว ซีอีโอ Circle-Ripple-Chainlink ร่วมยินดี ‘ทรัมป์’ ลงนามกฎหมาย Stablecoin

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บุคคลสำคัญระดับสูงในอุตสาหกรรมคริปโตและบล็อกเชนหลายราย ได้ประกาศว่าจะเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามบังคับใช้ร่างกฎหมาย Stablecoin เป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้

การเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายคริปโตที่สำคัญ 3 ฉบับเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่กระบวนการต้องล่าช้าไปชั่วขณะ โดยกฎหมาย Guiding and Establishing National Innovation for US Stablecoins (GENIUS) Act มีกำหนดการที่จะถูกลงนามบังคับใช้ในพิธีที่จะจัดขึ้นวันศุกร์เวลา 18:30 น. ตามเวลาสากลเชิงพิกัด (UTC) ซึ่งคาดว่าจะมีผู้สนับสนุนคริปโตของทรัมป์เข้าร่วมงานด้วย

ในบรรดาผู้บริหารระดับสูงที่ยืนยันจะเข้าร่วมงานในทำเนียบขาว ประกอบด้วย Stu Alderoty ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ Ripple, Jeremy Allaire ซีอีโอของ Circle, Sergey Nazarov ผู้ร่วมก่อตั้ง Chainlink Labs, Nathan McCauley ซีอีโอของ Anchorage Digital และ Kyle Samani หุ้นส่วนผู้จัดการของ Multicoin Capital โดยคาดว่าในงานอาจมีผู้บริหารที่เป็นมิตรกับรัฐบาลเข้าร่วมเพิ่มเติม ซึ่งอาจรวมถึงบุคคลจาก World Liberty Financial ซึ่งเป็นธุรกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวของทรัมป์และเคยออกเหรียญ Stablecoin ของตัวเองจนถูกสมาชิกรัฐสภาตรวจสอบ

กฎหมาย Stablecoin ฉบับนี้จะยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที โดยคาดว่าจะมีผลในอีก 18 เดือนข้างหน้า หรือ 120 วันหลังจากที่กระทรวงการคลังและธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ออกกฎระเบียบขั้นสุดท้าย ซึ่งหมายความว่าผลกระทบของกฎหมายนี้ไม่น่าจะถูกนำไปใช้เป็นประเด็นในการหาเสียงเลือกตั้งกลางเทอมในปี 2026

สำหรับร่างกฎหมายอีกสองฉบับที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรไปพร้อมกัน คือ CLARITY Act และ Anti-CBDC Surveillance State Act ยังคงต้องผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาต่อไปก่อนที่จะถูกส่งไปให้ประธานาธิบดีลงนาม อย่างไรก็ตาม แม้กฎหมาย GENIUS Act จะผ่านการอนุมัติแล้ว แต่ก็ยังคงมีเสียงคัดค้านจากสมาชิกเดโมแครตหลายรายที่หยิบยกประเด็นว่าทรัมป์อาจได้รับผลประโยชน์ส่วนตัวจากการผ่านกฎหมายนี้ เนื่องจากเขามีการลงทุนใน World Liberty Financial และเหรียญมีมของตนเอง

ที่มา: cointelegraph