Benjamin Cowen นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง ที่เคยคาดการณ์ตลาดคริปโตได้อย่างแม่นยำว่า ตลาดขาขึ้นรอบนี้จะเน้นไปที่ Bitcoin (BTC) ล่าสุดเขาได้ออกมาแชร์มุมมองใหม่โดยกล่าวว่า ถึงเวลาของ Ethereum (ETH)
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 Benjamin Cowen เคยคาดการณ์ว่า Ethereum จะ “กลับสู่จุดสมดุล” หรือราคาจะร่วงลงมาแตะเส้นแนวโน้มการเติบโตแบบลอการิทึม (logarithmic growth trendline) ตามรูปแบบที่เคยเกิดขึ้นในอดีตและเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ราคา Ethereum ก็ได้ร่วงลงมา อยู่ที่ราว 1,550 ดอลลาร์ ซึ่ง Benjamin Cowen ยืนยันว่า “ETH กลับสู่จุดสมดุลแล้วเรียบร้อย “
Benjamin Cowen เชื่อว่า เมื่อราคา Ethereum พุ่งขึ้นสูงเกินไป เหนือเส้นการเติบโตเฉลี่ยในระยะยาว ในที่สุดแล้ว ราคา Ethereum จะร่วงกลับลงมา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตในประวัติศาสตร์
การปรับตัวขึ้นของราคา Ethereum (ETH) ในรอบนี้ ส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนมาจากการหมุนเวียนเงินทุน จาก Altcoin เข้ามายัง Ethereum โดย Benjamin Cowen อธิบายว่า
“หากคุณซื้อ Ethereum ในช่วงที่ราคากลับมาสู่จุดสมดุล (ตามที่เขาเคยคาดการณ์ไว้ว่า ‘ETH will come home’) และรู้สึกว่า กำลังพลาดโอกาสจากราคา Altcoin ที่ปรับตัวขึ้น ให้พิจารณาสิ่งนี้: มูลค่ารวมของตลาด Altcoin ลดลง 40% เมื่อเทียบกับ ETH นับตั้งแต่ที่ ETH กลับสู่แนวโน้มเดิม”
Benjamin Cowen ชี้ว่า ตอนนี้เราอยู่ในช่วงของวงจรตลาดที่ “เหรียญ Altcoin ของคุณขึ้นจริง แต่เมื่อเทียบกับ Ethereum แล้ว Altcoin มันราคาร่วงลงหรือเปล่า?”
ซึ่ง Benjamin Cowen ได้ให้หลักการง่าย ๆ สำหรับการลงทุนดังนี้
“เมื่อ Altcoin มีราคาลดลง เมื่อเทียบกับ Bitcoin ให้ถือ Bitcoin มากกว่า Altcoin
เมื่อ Altcoin มีราคาลดลงเมื่อเทียบกับ Ethereum ให้ถือ Ethereum มากกว่า Altcoin
มันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น”
Benjamin Cowen ยังกล่าวเสริมว่า Ethereum มีโอกาสสูงที่จะทำจุดสูงสุดใหม่ หากสามารถฝ่าระดับแนวต้านที่กดดันราคามาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 ได้
“ตั้งแต่ ETH กลับสู่จุดสมดุล หาก ETH สามารถพุ่งกลับไปแตะ 4,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง มีโอกาสสูงมากที่ครั้งนี้จะทะลุแนวต้านไปได้จริง ๆ และหนึ่งในวิธีที่จะทำให้รอบนี้รู้สึกจบรอบ อย่างสมบูรณ์ คือ การที่ ETH ทำจุดสูงสุดใหม่ในช่วงครึ่งปีข้างหน้านี้”
ในขณะที่รายงาน ราคาของ Ethereum กำลังซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 3,775.96 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.69% ภายใน 24 ชั่วโมง อ้างอิงข้อมูลจาก coinmarketcap

ที่มา : dailyhodl

