บริษัทวิจัย Cygnal ได้เผยผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับผู้ถือครอง Bitcoin และบทบาทของพวกเขาต่อการเมืองสหรัฐฯ โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 800 คน ก่อนงานประชุม Bitcoin Policy Summit
ผลการศึกษาพบว่า ปี 2024 ถือเป็นปีที่พลิกโฉมวงการคริปโตอย่างแท้จริง โดยมีแรงขับสำคัญจาก นโยบายสนับสนุน Bitcoin ของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ข้อมูลชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างชัดเจนระหว่าง “Bitcoiners” กับกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยทั่วไป
รายงานระบุว่า ผู้ถือครอง Bitcoin ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่ม มีการศึกษาสูง รายได้ดี และเอนเอียงไปทางพรรครีพับลิกัน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ แต่กลับพบว่า กลุ่มนี้มีอัตราการไปใช้สิทธิเลือกตั้งค่อนข้างต่ำ
Brent Buchanan ซีอีโอของ Cygnal ให้ความเห็นว่า พรรคเดโมแครตอาจกำลัง “พลาดครั้งใหญ่” ที่ไม่ให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ถือ Bitcoin ซึ่งมีแนวคิดชัดเจนในเรื่อง เสรีภาพ ความเป็นอิสระ ความสำเร็จส่วนตัว และกฎเกณฑ์ที่สมเหตุสมผล ซึ่งเป็นค่านิยมที่อาจกลายเป็นพลังเสียงสำคัญในอนาคต
เมื่อพูดถึงผลกระทบทางการเมือง งานวิจัยนี้ให้เห็นชี้ว่าผู้ถือ Bitcoin ส่วนใหญ่เชื่อว่าประเทศจะเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากมีการเปิดรับและสนับสนุน Bitcoin อย่างจริงจัง ซึ่งสะท้อนออกมาในตัวเลขความนิยมทางการเมืองที่เทไปทางฝั่งโดนัลด์ ทรัมป์ ถึง 59% เทียบกับ กมลา แฮร์ริส ที่ได้เพียง 34%
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ถือ Bitcoin กว่า 76% แสดงจุดยืนชัดเจนว่าพร้อมจะสนับสนุนผู้สมัครที่ผลักดันกฎหมายที่เอื้อต่อการใช้และถือครอง Bitcoin โดยเฉพาะในประเด็นด้านเสรีภาพทางการเงินและการลดการควบคุมจากภาครัฐ
เมื่อเจาะลึกลงไปในสาเหตุว่าทำไมผู้คนเหล่านี้ถึงเลือกถือครอง Bitcoin รายงานได้ระบุถึงเหตุผลหลัก 3 ประการ ได้แก่ มองเห็นศักยภาพของ Bitcoin ในด้านการลงทุน (62%) เชื่อว่า Bitcoin เป็นเครื่องมือที่จะมอบอิสรภาพทางการเงินให้ได้ (32%) และอีกส่วนหนึ่งมองว่า Bitcoin เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจ (30%)
นอกจากนี้ ผู้ถือ Bitcoin ที่มีรายได้สูงยังมีแนวโน้มที่จะเชื่อว่า Bitcoin คือสินทรัพย์ที่สามารถใช้ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังแสดงความไม่มั่นใจต่อการที่รัฐบาลกลางจะสามารถกำกับดูแล Bitcoin ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีระดับความเชื่อมั่นสูงกว่าผู้ที่ไม่ได้ถือ Bitcoin โดยคิดเป็นอัตราส่วน 29% ต่อ 12%
แม้ว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยรวมในสหรัฐฯ จะยังมีท่าทีระมัดระวังต่อ Bitcoin แต่ผลสำรวจระบุว่า ประชาชนทั่วไปถึง 38% สนับสนุนแนวคิดในการออกกฎหมายเพื่อกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ขณะที่ฝั่งของ Bitcoiners เองก็แบ่งออกเป็น 54% ที่เห็นด้วยกับการมีกฎหมายกำกับดูแล และ 46% ที่ยังเลือกวางตัวเป็นกลาง
ที่มา : Cryptopolitan