สงครามระหว่างโลกการเงินดั้งเดิมและโลกคริปโตกำลังจะเปิดฉากขึ้นในสมรภูมิใหม่ หลังจากที่ยักษ์ใหญ่แห่ง Wall Street อย่าง Goldman Sachs และ Bank of New York Mellon ได้เริ่มเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในการนำ “กองทุนรวมตลาดเงิน” (Money Market Funds) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินสุดคลาสสิก มาแปลงให้อยู่ในรูปแบบโทเคน นักวิเคราะห์มองว่านี่คือ “คำตอบ” ของ Wall Street ต่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ Stablecoin ที่กำลังจะเข้ามาท้าชิงบทบาทของ “เงินสดในฐานะสินทรัพย์”
นาง Teresa Ho นักกลยุทธ์ของ JPMorgan ได้อธิบายภาพการแข่งขันครั้งนี้ว่า การที่สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ต้องลุกขึ้นมาปรับตัว เป็นเพราะการมาถึงของกฎหมาย GENIUS Act ในสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะยิ่งเร่งให้เกิดการยอมรับดอลลาร์ดิจิทัลในวงกว้าง และอาจเข้ามาลดทอนความน่าสนใจของกองทุนรวมแบบเดิมได้ เธอยังชี้ให้เห็นว่าการ Tokenize จะช่วยปลดล็อกกรณีการใช้งานใหม่ๆ เช่น การนำหน่วยลงทุนของกองทุนไปใช้เป็นหลักประกัน (margin collateral) ได้โดยตรง “แทนที่จะต้องวางเงินสดหรือพันธบัตรเป็นหลักประกัน คุณสามารถวางหน่วยลงทุนของกองทุนตลาดเงินแทนได้โดยไม่สูญเสียผลตอบแทนจากดอกเบี้ยไป” Ho กล่าวกับ Bloomberg
การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความกังวลในอุตสาหกรรมการเงินที่ว่า การเติบโตของ Stablecoin อาจกัดกร่อนความต้องการในสินทรัพย์แบบดั้งเดิม โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการกู้ยืมของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เคยออกมาเตือนว่า Stablecoin อาจลดความต้องการของธนาคารในการถือครองพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสินเชื่อได้
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนมองว่ากฎหมาย GENIUS Act อาจเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายในระยะยาว โดยนาย Solomon Tesfaye จาก Aptos Labs ให้ความเห็นว่า Stablecoin จะเข้ามาสร้าง “ประตู” (on-ramps) ที่มากขึ้นไปสู่ตลาด Tokenization ในภาพรวม ขณะที่นาย Michael Sonnenshein ประธานของ Securitize ก็กล่าวกับ The Wall Street Journal ว่า กฎหมาย GENIUS Act จะปูทางให้บริษัทต่างๆ กล้าที่จะเข้ามาในโลกของ Tokenization มากขึ้นโดยไม่ต้องกลัวว่าจะเจอกฎระเบียบที่ไม่คาดคิด “สำหรับผู้ออกสินทรัพย์ที่อาจจะยังลังเลอยู่ข้างสนาม นี่คือสิ่งที่มอบความคุ้มครองเพิ่มเติมให้กับพวกเขา” เขากล่าว การลงสนามของผู้เล่นยักษ์ใหญ่จาก Wall Street ในครั้งนี้จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า การแข่งขันเพื่อกำหนดอนาคตของระบบการเงินในยุคดิจิทัลได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างแท้จริง

ที่มา: cointelegraph

