Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX สร้างความฮือฮาอีกครั้ง หลังมีรายงานว่าเขาได้เทขายคริปโตมูลค่ากว่า 13 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางสภาพตลาดที่กำลังปรับฐานอย่างรุนแรง
ข้อมูล On-chain บอกทุกอย่าง
ข้อมูลจากการติดตามธุรกรรม On-chain แสดงให้เห็นว่า Hayes เทคริปโตออกไปจำนวนมาก โดยมี Ethereum จำนวน 2,373 ETH (ราว 8.32 ล้านดอลลาร์), ENA จำนวน 7.76 ล้าน ENA (4.62 ล้านดอลลาร์) และ PEPE อีกเกือบ 3.9 หมื่นล้าน PEPE (415,000 ดอลลาร์) ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย เนื่องจาก Hayes เป็นคนที่บอกว่า Altcoin จะไปได้ไกล
การเทขายครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับที่ Bitcoin ร่วงลงถึง 112,731 ดอลลาร์ ใน 24 ชั่วโมง ซึ่ง Julio Moreno จาก CryptoQuant วิเคราะห์ว่าเป็น “คลื่นเทขายทำกำไรครั้งใหญ่” รอบที่ 3 ของวัฏจักรขาขึ้นนี้
แพทเทิร์นนี้มักเกิดขึ้นก่อนตลาดจะปรับฐานลงต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ ยังเผชิญกระแสเงินไหลออกกว่า 812 ล้านดอลลาร์ ในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นการขาดทุนรายวันที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เปิดตัวกองทุน ส่วน Ethereum ETF ก็มีเงินไหลออกจำนวนมากเช่นกัน
Hayes ออกมาเตือนเรื่องความผันผวน
ก่อนหน้านี้ Hayes เคยออกมาเตือนนักลงทุนให้ระวังความผันผวน โดยเฉพาะหลังมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ กำลังจะมีผลบังคับใช้ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลกในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ นอกจากนี้ ความกังวลของ FED เกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่อาจเกิดขึ้น ยังซ้ำเติมให้ตลาดอยู่ในโหมดขาลงชัดเจนขึ้น
แม้หลายคนตั้งคำถามถึงเหตุผลการเทขายคราวนี้ แต่หลายฝ่ายมองว่า Hayes อาจเพียงแค่ “ปรับพอร์ตลดความเสี่ยง” มากกว่าการหนีคริปโตระยะยาว เพราะเจ้าตัวเพิ่งยืนยันเมื่อไม่กี่เดือนก่อนว่า Ethereum อาจพุ่งได้ถึง 10,000 ดอลลาร์ และเมื่อไม่นานมานี้เขายังช้อน ENA กว่า 1.5 ล้านดอลลาร์
การเทขายล็อตใหญ่รอบนี้จึงอาจเป็นการล็อกกำไรเพื่อเตรียมกลับเข้าซื้อเมื่อสถานการณ์เริ่มนิ่ง ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ส่วนตัวของ Hayes ที่ชอบช้อนตอนตลาดร่วง แล้วเทขายตอนตลาดผันผวน
Source: Coindoo