ในวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งตรงกับเส้นตายที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กำหนดไว้สำหรับการบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ ตลาดคริปโตได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ Bitcoin (BTC) ที่ร่วงลงหลายพันดอลลาร์ภายในวันเดียว แตะระดับต่ำสุดในรอบหลายสัปดาห์ที่ต่ำกว่า $114,500
อัพเดทคำสั่งขึ้นภาษีของ Trump
คำสั่งผู้บริหารฉบับใหม่ที่ทรัมป์ลงนามเมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่ารัฐบาลจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าทั่วไปที่ 10% สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากทุกประเทศ ยกเว้น 92 ประเทศที่ถูกระบุไว้ในภาคผนวก ซึ่งจะถูกเก็บในอัตราที่สูงกว่า นอกจากนี้ สินค้าจาก แคนาดา จะถูกปรับขึ้นจาก 25% เป็น 35%
ทรัมป์ให้เหตุผลในคำสั่งว่า:
“ผมเห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมในการรับมือกับภาวะฉุกเฉินระดับชาติที่ประกาศไว้ในคำสั่งผู้บริหารหมายเลข 14257 ด้วยการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจากประเทศคู่ค้าเฉพาะราย”
ตลาดคริปโตตอบสนองด้วยแรงเทขาย
แม้ว่าก่อนหน้านี้ราคาของ Bitcoin จะฟื้นตัวขึ้นมาแตะเกือบ $119,000 หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แต่หลังจากที่คำสั่งขึ้นภาษีของทรัมป์มีผล ราคา BTC ก็ร่วงลงมากกว่า $4,000 ภายในวันเดียว ลงมาแตะระดับ $114,400 ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย
ในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด Bitcoin ยังคงติดลบมากกว่า 3% ขณะที่เหรียญทางเลือก (Altcoins) หลายตัวมีผลตอบแทนที่แย่กว่า โดย ETH และ XRP ร่วงกว่า 6% ส่วนเหรียญอื่น ๆ อย่าง SPX, ENA, CRV, INJ, PENGU, JUP, BONK, SEI ต่างร่วงลงเป็นตัวเลข สองหลัก (double-digit loss)
มูลค่าตลาดคริปโตโดยรวม (Total Crypto Market Cap) หายไปกว่า $150 พันล้านดอลลาร์ จากจุดสูงสุดเมื่อวานนี้ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ $3.820 ล้านล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CoinGecko (CG)
สงครามการค้ากลับมาเขย่าตลาด?
นักเศรษฐศาสตร์หลายรายออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าว เช่นจาก The Kobeissi Letter ที่ระบุว่า:
“สงครามการค้าในรอบนี้ดูเหมือนจะสูญเสียความน่าเชื่อถือไปอย่างสิ้นเชิง”
ถึงแม้ว่าภูมิทัศน์ของตลาดจะยังไม่ดิ่งแรงเท่ารอบก่อน อย่างในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่ BTC เคยร่วงจากระดับ 6 หลักลงไปต่ำกว่า $75,000 ภายในไม่กี่วัน และตลาดสูญเสียมูลค่ากว่า $500 พันล้านดอลลาร์ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยังอ่อนไหวต่อความเคลื่อนไหวด้านนโยบายระหว่างประเทศอย่างมาก
ที่มา : CryptoPotato

