ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่ เปิดทางให้สินทรัพย์ทางเลือกอย่างคริปโตเคอร์เรนซี, private equity และอสังหาริมทรัพย์ สามารถเข้ามาเป็นทางเลือกการลงทุนในแผนเกษียณของชาวอเมริกันผ่านบัญชี 401(k) ซึ่งมีผู้ใช้งานมากกว่า 90 ล้านคนทั่วประเทศ คำสั่งดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการการเงินส่วนบุคคลของสหรัฐ และเป็นการผลักดันคริปโตเข้าสู่กระแสหลักอย่างเป็นทางการ
ภาพราคา bitcoin จาก coinmarketcap เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2025
ผลตอบรับในตลาดเกิดขึ้นทันที Bitcoin (BTC) พุ่งทะลุระดับ $116,000 พร้อมด้วย Ether (ETH) และ XRP ที่บวกกว่า 4% ขณะที่หุ้นบริษัทคริปโตอย่าง Coinbase, Robinhood และ MicroStrategy ต่างปรับตัวขึ้นตามด้วย
คำสั่งดังกล่าวสั่งให้หน่วยงานกำกับดูแลอย่าง SEC พิจารณาทบทวนข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เพื่อเอื้อให้สินทรัพย์เหล่านี้สามารถถูกบรรจุอยู่ในกองทุนสำหรับแผนเกษียณได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการลงทุนในโทเคนดิจิทัลที่ผ่านการกำกับแล้ว เช่น stablecoins ภายใต้กฎหมาย GENIUS Act ที่เพิ่งลงนามไปเมื่อเดือนกรกฎาคม
ฝั่งภาคเอกชน เช่น BlackRock และ KKR ออกมาให้การสนับสนุน พร้อมคาดการณ์ว่าตลาดนี้จะกลายเป็นแหล่งทุนใหม่มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สำหรับ private equity และกองทุนทางเลือกอื่นๆ
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่านโยบายใหม่นี้ แม้จะเพิ่มทางเลือกและโอกาสผลตอบแทนที่สูงขึ้นให้กับผู้ลงทุนเกษียณ แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงจากความผันผวน, สภาพคล่องต่ำ และค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในตลาดคริปโตที่ยังคงเป็นตลาดเกิดใหม่
คำสั่งนี้ยังตอกย้ำแนวทาง “เปิดเสรี” ของรัฐบาลทรัมป์ในวาระที่สอง ที่มุ่งลดข้อจำกัดต่อคริปโตเคอร์เรนซีอย่างชัดเจน ส่งเสริมบทบาทของสินทรัพย์ดิจิทัลในระบบการเงินสหรัฐฯ อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ที่มา: financeyahoo

