Google ได้ก้าวเข้าสู่สมรภูมิการขุด Bitcoin อย่างเป็นทางการ ผ่านการเข้าถือหุ้นใน TeraWulf (WULF) หนึ่งในบริษัทเหมืองขุดบิตคอยน์ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลพวงจากดีลทางธุรกิจมูลค่ามหาศาลที่ส่งผลให้ราคาหุ้นของ TeraWulf พุ่งทะยานกว่า 25% ทันที
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้ไม่ใช่การที่ Google เข้าไปซื้อหุ้นโดยตรง แต่เป็นผลจากข้อตกลงทางธุรกิจที่ซับซ้อนและชาญฉลาด โดย TeraWulf ซึ่งมีธุรกิจหลักคือการขุดบิตคอยน์และให้บริการศูนย์ข้อมูล ได้ประกาศปิดดีลครั้งประวัติศาสตร์ในการให้บริการโฮสติ้งสำหรับธุรกิจ AI กับบริษัท Fluidstack เป็นระยะเวลา 10 ปี
แต่ส่วนที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ Google ได้เข้ามาเป็นผู้ค้ำประกันทางการเงินรายใหญ่ในดีลนี้ โดยจะค้ำประกันภาระผูกพันตามสัญญาเช่าของ Fluidstack เป็นมูลค่าสูงถึง 1.8 พันล้านดอลลาร์
การค้ำประกันครั้งนี้เปรียบเสมือนการที่ Google ใช้สถานะทางการเงินอันแข็งแกร่งของตนเองเข้ามา “อุ้ม” โครงการนี้ และเพื่อเป็นการตอบแทนสำหรับการแบกรับความเสี่ยงดังกล่าว Google จะได้รับหุ้นของ TeraWulf จำนวน 41 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 8% ในบริษัทเหมืองขุดบิตคอยน์แห่งนี้
แม้ TeraWulf จะเป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทขุด Bitcoin แต่ดีลนี้ได้เผยให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่ใหญ่กว่านั้นของ Google นั่นคือการมองไปที่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของทั้งการขุดคริปโตและธุรกิจ AI ที่กำลังเติบโต
ภายใต้ข้อตกลงนี้ TeraWulf จะใช้ศูนย์ข้อมูล Lake Mariner ในนิวยอร์ก เพื่อให้บริการโหลด IT ที่สำคัญกว่า 200 เมกะวัตต์ (MW) แก่ Fluidstack ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้ TeraWulf สูงถึง 3.7 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 10 ปีแรก และอาจสูงถึง 8.7 พันล้านดอลลาร์ หากมีการต่อสัญญา
บริษัทวิเคราะห์ Clear Street ได้เรียกข้อตกลงนี้ว่าเป็น “ข้อตกลงที่พลิกโฉม” สำหรับ TeraWulf และเป็นการส่งสัญญาณบวกอย่างรุนแรงต่อตลาด โดยมองว่าดีลนี้จะ “ยกระดับสถานะของบริษัทในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน AI/HPC ชั้นนำอย่างมีนัยสำคัญ”
การประกาศข่าวนี้ได้ส่งผลให้ราคาหุ้น WULF พุ่งขึ้นมากกว่า 25% ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าการที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Google เข้ามาพัวพันกับบริษัทในโลกของ Bitcoin นั้น เป็นข่าวใหญ่ที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด
ที่มา: investors

