วันนี้ (20 ส.ค.) ตลาดคริปโตได้เผชิญกับแรงกดดันอีกครั้ง เมื่อราคา Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า $113,000 ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้ความรู้สึกของนักลงทุนรายย่อยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากความโลภที่เคยมีอยู่กลับกลายเป็นความกลัวสุดขีด
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อินดิเคเตอร์ Crowd Sentiment หรือความรู้สึกของนักลงทุนบนโซเชียลมีเดียได้เปลี่ยนเป็นไปในทางลบแบบสุดขั้ว ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงที่มีความกังวลในเรื่องสงครามเมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น ก็ส่งผลให้เกิดการ Panic Sell ตามมา
ความกลัวที่มาพร้อมกับโอกาส
สิ่งที่น่าสนใจคือ ในอดีตที่ผ่านมา ความรู้สึกเชิงลบแบบนี้ มักจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ใจเย็นและรอจังหวะเข้าซื้อ ในช่วงที่ตลาดกำลังตกต่ำและเต็มไปด้วยความกลัว เพราะว่า ตลาดมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่คนส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้เสมอ
เมื่อความกลัวของนักลงทุนพุ่งสูงขึ้น สังเกตุได้จากเส้นสีเหลืองที่ร่วงลงมาทะลุเส้นสีเขียว อินดิเคเตอร์ Crowd Sentiment จะเริ่มส่งสัญญาณว่า ราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัวขึ้นอีกครั้ง อ้างอิางจากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา
นอกจากนี้ สถานการณ์ในปัจจุบันยังสอดคล้องกับ Bitcoin Fear & Greed Index ที่แสดงค่าในปัจจุบันที่ 44 หมายถึง ตลาดกำลังตกอยู่ใน “โซนความกลัว” หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดเคยอยู่ในโซนความโลภมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม แม้ในตอนนี้ตลาดคริปโตจะเต็มไปด้วยความกลัวและความไม่แน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่อาจจะเป็นช่วงเวลาทอง ที่นักลงทุนระยะยาวสามารถมองเห็นโอกาสในการสะสมสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าจริง แม้จะมีความเสี่ยงสูง แต่ความผันผวนของตลาดคริปโตมักจะให้ผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ได้ในระยะยาวสำหรับผู้ที่สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนได้
การติดตามอินดิเคเตอร์ต่าง ๆ และความเคลื่อนไหวของตลาดในระยะสั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่การรักษาแนวคิดที่ใจเย็นและมีระเบียบในเวลาที่ตลาดตกต่ำก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการฟื้นตัวตลาดได้ดีไม่แพ้กัน
ด้วยสัญญาณจาก Crowd Sentiment และ Bitcoin Fear & Greed Index ที่บ่งบอกถึงความกลัวที่กำลังพุ่งสูงขึ้นนี้อาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการมองหาจังหวะเข้าซื้อเพื่อเพิ่มการสะสมทรัพย์สินในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อราคาตกต่ำเกินไปจนเกินจะคาดเดา
ที่มา:alternative