แม้ตลาดคริปโตฯ จะยังต้องรออีกกว่าหนึ่งเดือนเพื่อเข้าสู่ช่วงขาขึ้นในไตรมาสที่ 4 ซึ่งมักจะเริ่มต้นด้วยเดือน “Uptober” แต่ความท้าทายแรกคือเดือนกันยายน ซึ่งตามสถิติแล้วเป็นเดือนที่ตลาดมักจะซบเซา
ในขณะที่ราคา บิตคอยน์ (BTC) กำลังร่วงตัวลงอีกครั้ง เพื่อส่งสัญญาณถึงความอ่อนแรงตามฤดูกาล แต่ท่ามกลางการพักฐานนี้ โปรเจกต์ Layer-2 ที่เร็วที่สุดอย่าง Bitcoin Hyper (HYPER) กำลังปรากฏขึ้น ในฐานะตัวแปรสำคัญที่อาจพลิกทิศทางตลาดได้ทันเวลาก่อนเข้าสู่ไตรมาส 4
Bitcoin Hyper มีเป้าหมายในการขยายศักยภาพของบิตคอยน์ให้ก้าวไปไกลกว่า การเป็นเพียงสินทรัพย์เก็บมูลค่า โดยเพิ่มความสามารถด้านการ “เขียนโปรแกรม” ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่ขาดหายไปในโครงสร้างของบิตคอยน์มาโดยตลอด
การทำงานของโปรเจกต์นี้ เกิดขึ้นได้ด้วยการผสานรวม Solana Virtual Machine (SVM) เข้ามาเป็นครั้งแรก ทำให้ความเร็วและประสิทธิภาพระดับ Solana ถูกนำมาใช้ บนชั้นความปลอดภัยที่แข็งแกร่งของบิตคอยน์โดยตรง
วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนนี้ ทำให้ Bitcoin Hyper สามารถระดมทุนได้แล้วกว่า 10.6 ล้านดอลลาร์ ในโปรเจกต์ช่วงเริ่มต้น แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนแม้ในช่วงที่ตลาดกำลังซบเซา
ขณะนี้โปรเจกต์ระดมทุนในช่วงเริ่มต้น ปัจจุบันเหลือเวลาเพียง 28 ชั่วโมง เท่านั้น และราคาของโทเค็น HYPER ยังอยู่ที่ $0.012755 ก่อนที่จะมีการปรับขึ้นราคาในเฟสถัดไปโดยอัตโนมัติ

นักเทรดจับตาการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ขณะที่ “Uptober” กำลังใกล้เข้ามา
ราคา บิตคอยน์ ได้ร่วงลงกว่า 7% จากระดับ 124,000 ดอลลาร์ เมื่อ 5 วันที่แล้ว มาอยู่ที่ต่ำกว่า 115,000 ดอลลาร์ สาเหตุสำคัญเกิดจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินของสหรัฐฯ หลังจากที่ข้อมูลเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด และเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เองก็ส่งสัญญาณที่สับสนเกี่ยวกับจังหวะการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ นักเทรดบางส่วนยังเลือกที่จะขายทำกำไรออกมาก่อนคำปราศรัยของประธาน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อย่าง เจอโรม พาวเวลล์ ที่งาน Jackson Hole ในวันศุกร์ ซึ่งตลาดคาดหวังว่า จะให้ความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในเดือนกันยายน โดยตลาด Futures ได้ประเมินความน่าจะเป็นไว้สูงแล้วว่า อาจจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุด และอาจจะมากถึง 50 จุด หากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเพิ่มเติมปรากฏออกมา

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มที่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ราคา บิตคอยน์ (Bitcoin) และตลาดคริปโตฯ โดยรวมปรับตัวสูงขึ้น เพราะสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นจะช่วยยืนยันถึงบทบาทของบิตคอยน์ในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสื่อมค่าของสกุลเงิน
หาก Fed ส่งสัญญาณที่ผ่อนคลาย (dovish) นักเทรดก็อาจจะเริ่มปรับพอร์ต เพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ล่วงหน้า ก่อนการลดดอกเบี้ยจริง ซึ่งจะเปิดโอกาสให้บิตคอยน์ สามารถทำกำไรจากแนวโน้มเชิงบวกในช่วง “Uptober” ตามประวัติศาสตร์ และพุ่งทะยานสู่ระดับราคาที่สูงขึ้นได้อีก
โดยนักลงทุนชื่อดังอย่าง Tom Lee จาก Fundstrat ก็ได้ตั้งเป้าราคาบิตคอยน์ไว้ที่สูงกว่า 200,000 ดอลลาร์ แล้ว
Bitcoin Hyper ตัวเร่งที่อาจเปลี่ยนโฉม “Uptober” ใหม่
จากสถิติที่ผ่านมา เดือนกันยายนเป็นเดือนที่ตลาด บิตคอยน์ (Bitcoin) อ่อนแอที่สุด โดยนับตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา มีถึง 8 ใน 12 ครั้ง ที่ราคาปิดเดือนด้วยการขาดทุน โดยเฉลี่ยลดลงประมาณ 3.77% ซึ่งสูงกว่าเดือนอื่นๆ ที่อยู่ในโซนแดงอย่างเดือนมิถุนายนที่เฉลี่ยลดลงเพียง 0.14% เท่านั้น
ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า แม้จะมีความคาดหวังเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ย แต่บิตคอยน์ก็ยังคงต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ซบเซาในเดือนกันยายนนี้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ยังมีมุมมองเชิงบวกที่รออยู่ นั่นคือเดือนตุลาคมซึ่งถูกขนานนามว่า “Uptober” ที่เป็นเดือนซึ่ง บิตคอยน์ (Bitcoin) ทำผลงานได้ดีที่สุด โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 21.89% และมักจะต่อเนื่องไปถึงเดือนพฤศจิกายนหรือ “Moonvember” ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดถึง 46.02%
คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่า Bitcoin Hyper ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่กำลังจะนิยามบิตคอยน์ใหม่ จะสามารถผลักดันให้วัฏจักรขาขึ้นนี้ไปได้ไกลกว่าเดิมหรือไม่
สำหรับนักลงทุนที่สนับสนุนโปรเจกต์นี้ตั้งแต่ช่วงแรก บิตคอยน์จะไม่ใช่เพียงสินทรัพย์เก็บมูลค่าอีกต่อไป แต่จะกลายเป็น “เครื่องจักร” ที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ ซึ่งมีความเร็วมากกว่า Ethereum อย่างมาก และยังคงรักษาความปลอดภัยตามชื่อเสียงของบิตคอยน์ไว้ได้อย่างครบถ้วน
Bitcoin Hyper : โซลูชั่น Layer- 2 ของบิตคอยน์รุ่นแรก ที่รองรับ SVM โดยตรง
Bitcoin Hyper คือโซลูชัน Layer-2 รุ่นแรกที่ผสาน Solana Virtual Machine (SVM) เข้ากับเครือข่าย บิตคอยน์ (Bitcoin) เพื่อสร้างระบบนิเวศใหม่ทั้งหมด ทำให้บิตคอยน์สามารถถูกนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนบนแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งได้รับประโยชน์จากความรวดเร็วและค่าธรรมเนียมที่ต่ำของ Solana
กระบวนการทำงานของ Bitcoin Hyper นั้นเรียบง่าย โดยเมื่อผู้ใช้งานนำ BTC มาล็อกไว้ใน “สะพาน” (bridge) จะมีการสร้างเหรียญ wrapped BTC ที่มีมูลค่าเท่ากันขึ้นมาบนเครือข่าย Bitcoin Hyper เพื่อใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ ซึ่งหากไม่มีการล็อก BTC ไว้จริง ก็จะไม่มี wrapped BTC เกิดขึ้น ทำให้ระบบทั้งหมดมีความน่าเชื่อถือ และยึดโยงกับความปลอดภัยของบิตคอยน์อย่างสมบูรณ์
เมื่อผู้ใช้งาน ต้องการแลกเหรียญคืน wrapped BTC จะถูก เผา (burn) และ BTC ต้นฉบับที่ล็อกไว้ ก็จะถูกปลดปล่อยออกมา ทำให้รักษาสัดส่วนแบบ หนึ่งต่อหนึ่ง และทำให้ทั้งระบบสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส

ทั้งนี้โทเคน HYPER ยังมีบทบาทสำคัญในการรักษาการทำงานของเครือข่าย ทำหน้าที่เป็นสกุลเงินแก๊สสำหรับค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม การรัน Smart Contract และการโต้ตอบกับ dApps ภายใน Layer- 2
สิทธิ์ในการกำกับดูแล (governance) และฟีเจอร์พิเศษต่าง ๆ ก็จะถูกควบคุมผ่าน HYPER ด้วย ทำให้ความต้องการโทเค็นเพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของระบบนิเวศในอนาคต
สรุปก็คือ Bitcoin Hyper เปลี่ยน BTC ให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่โปรแกรมได้ ขณะที่ HYPER ช่วยให้ระบบนิเวศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สร้างแรงขับเคลื่อนสองด้านสำหรับการเติบโตควบคู่กับการยอมรับใช้งานที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งการระดมทุนแตะ 11 ล้านดอลลาร์กำลังใกล้เข้ามา ถ้าคุณอยากมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนบิตคอยน์ในช่วง Uptober และ Moonvember ให้ไปที่เว็บไซต์ Bitcoin Hyper และสามารถเข้าร่วมผ่าน Best Wallet กระเป๋าเงินคริปโตยอดนิยม ที่ได้จัด HYPER ไว้ในหมวด Upcoming Tokens ช่วยให้คุณติดตาม จัดการ และเคลมโทเค็นหลังเปิดตัวได้อย่างง่ายดายและสะดวกสูงสุด
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมชุมชนบน Telegram และ X เพื่ออัปเดตข่าวสารล่าสุด
หากสนใจโปรเจกต์สามารถเข้าไปศึกษา Bitcoin Hyper เพิ่มเติม ได้แล้ว
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | ✔️ |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | ❌ |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | ✔️ |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | ✔️ |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | ❌ |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | ✔️ |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | ❌ |
| 9. สัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์

