Kanye West หรือที่รู้จักกันในชื่อ Ye ได้เปิดตัวโทเคน YZY บนบล็อกเชนของ Solana เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2025 สร้างความปั่นป่วนอย่างมากในตลาดคริปโต โทเคนดังกล่าวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศการเงิน “Yeezy Money” ได้พุ่งขึ้นอย่างบ้าคลั่งถึง 1,400% ภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ทำให้มีมูลค่าตลาดสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่ความตื่นเต้นนั้นอยู่ได้ไม่นาน ในวันต่อมา ราคาโทเคนได้ร่วงลงมากกว่า 80% มาซื้อขายอยู่ที่ 0.5515 ดอลลาร์ ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชน Nansen หายนะครั้งนี้ทำให้นักเทรดกว่า 51,000 รายต้องขาดทุนรวมกันถึง 74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่มีนักเทรดเพียงหยิบมือเดียว (11 กระเป๋า) ที่ทำกำไรได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความผันผวนและความไม่เป็นธรรมของ Memecoin ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีชื่อเสียง
การเปิดตัวเหรียญ YZY เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาเรื่องการใช้ข้อมูลภายในและการปั่นตลาด ข้อมูลบล็อกเชนจาก Bubblemaps เปิดเผยว่า กลุ่มคนวงในควบคุมอุปทานของโทเคนมากถึง 94% โดยมีกระเป๋าเงิน multisig เพียงใบเดียวที่ถือครองเหรียญถึง 87% ก่อนที่จะมีการแจกจ่าย
การกระจุกตัวของอุปทานนี้ทำให้กลุ่มนักลงทุนระยะแรกเพียงไม่กี่คนสามารถทำกำไรมหาศาลจากการพุ่งขึ้นของราคาในระลอกแรกได้ ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์ชื่อ Hayden Davies มีรายงานว่าทำกำไรได้ถึง 12 ล้านดอลลาร์จากการ “ดักซื้อ” โทเคนในทันทีที่เปิดตัว การใช้ Liquidity Pool แบบด้านเดียว ซึ่งอนุญาตให้ผู้พัฒนาสามารถปรับเปลี่ยนราคาได้ ยิ่งเพิ่มความน่าสงสัยเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่สุจริต ซึ่งทำให้นักลงทุนรายย่อยตกอยู่ในความเสี่ยง
การล่มสลายของโทเคน YZY ตอกย้ำถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในคริปโตที่คนดังให้การรับรอง ในเดือนมิถุนายน 2024 มีเหรียญบน Solana ที่ได้รับการสนับสนุนจากคนดังกว่า 30 เหรียญถูกปล่อยออกมา รวมถึงจาก 50 Cent และ Caitlyn Jenner ซึ่งราคาของเหรียญเหล่านั้นได้ร่วงลงอย่างน้อย 73.23% โทเคนเหล่านี้มักจะไม่มีประโยชน์ใช้สอยทางเทคโนโลยีที่แท้จริง และมูลค่าของมันก็ขึ้นอยู่กับกระแสไฮป์จากคนดังเป็นหลัก
แม้แต่ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง Andrew Tate ก็ยังขาดทุนไป 700,000 ดอลลาร์จากการเปิดสถานะ Short และ Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจในภายหลังกับการลงทุนครั้งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผันผวนอย่างรุนแรงของตลาด
ที่มา: financefeeds

