รายงานชี้เศรษฐีคริปโต-บิตคอยน์เนอร์ เริ่มละลายเหรียญซื้อทริปหรู

ปกติแล้ว Bitcoiner หรือกลุ่มนักลงทุนที่ศรัทธาใน Bitcoin มักจะเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่ามูลค่าของมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามคุณสมบัติที่โดดเด่น แต่เมื่อราคาพุ่งแรงในช่วงที่ผ่านมา การกระทำของพวกเขากลับเริ่มสวนทางกับความเชื่อเดิม เพราะหลายคนอดใจไม่ไหวที่จะนำ Bitcoin ออกมาใช้จ่าย

รายงานจาก Financial Times เผยว่า ธุรกิจท่องเที่ยวหรูระดับไฮเอนด์ เริ่มมีลูกค้าใช้ Bitcoin จ่ายค่าบริการมากขึ้น ทั้งโรงแรม รีสอร์ท เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ไปจนถึงเรือยอร์ชหรู ตัวอย่างเช่น FXAIR และ Virgin Voyages ที่ค่าบริการอยู่ในระดับ $80,000–$120,000 เลยทีเดียว

ถ้าในรอบตลาดกระทิงก่อน เศรษฐีคริปโตมักใช้เงินไปกับนาฬิกาหรูหรือซูเปอร์คาร์ รอบนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปสู่การ “ซื้อประสบการณ์” ที่ยากจะหาได้ อย่างการเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวแทน

สำหรับผู้ให้บริการ การยอมรับคริปโตไม่ใช่ปัญหา เพราะพวกเขาสามารถแปลงเป็นเงินเฟียตได้ทันที แต่สำหรับชาว Bitcoiner เอง นี่คือประเด็นใหญ่ เพราะการใช้ Bitcoin ไม่เพียงขัดกับแนวคิด “HODL” ที่เชื่อว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นไม่หยุด แต่ยังหมายถึงการเสียโอกาสในอนาคต

เหตุผลที่การใช้ Bitcoin แบบนี้ถูกมองว่าสวนทางกับความเชื่อของ Bitcoiner ก็เพราะพวกเขามักเชื่อว่า ราคาจะพุ่งขึ้นไม่หยุด การนำเหรียญไปใช้จ่ายกับสิ่งฟุ่มเฟือยจึงไม่ต่างจากการ “เสียโอกาส” และอาจกลายเป็นความเสียดายในภายหลัง

หนึ่งในตัวอย่างคลาสสิกคือปี 2010 ที่ Laszlo Hanyecz ใช้ 10,000 BTC ซื้อพิซซ่าสองถาด ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน เท่ากับกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้จึงมักถูกยกมาเป็นเครื่องเตือนใจเสมอว่า การใช้ Bitcoin มากเกินไปอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดี หากหวังจะอยู่ในตลาดระยะยาว

นอกจากนี้ การขายหรือใช้ Bitcoin เพื่อซื้อสินค้าและบริการยังถือเป็น “รายได้” ที่ต้องยื่นภาษีตามกฎหมาย ซึ่งยิ่งเพิ่มความซับซ้อนให้กับนักลงทุน

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ข้อมูลจาก McKinsey ชี้ว่า ตลาดท่องเที่ยวหรูสำหรับคนรุ่นใหม่จะเติบโตถึงสองเท่าในช่วงปี 2023–2028 ซึ่งสะท้อนว่า คริปโตไม่ได้เป็นเพียงแค่สินทรัพย์เพื่อเก็งกำไรอีกต่อไป แต่เริ่มถูกใช้เพื่อซื้อ “ประสบการณ์” ในโลกแห่งความจริง แม้ยังไม่ถึงวันที่เราจะใช้มันซื้อกาแฟทุกเช้า แต่ในแวดวงการใช้ชีวิตระดับบนสุด การเปลี่ยนแปลงได้เริ่มต้นแล้ว

ที่มา : Coindesk