ธนาคารแห่งชาติยูเครน (NBU) ได้ออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าไม่สนับสนุนข้อเสนอที่จะนำสินทรัพย์เสมือน (Virtual Assets) หรือคริปโตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของประเทศ โดยมองว่าเป็นเรื่องที่เร็วเกินไปและมีความเสี่ยงสูง การเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการรวมชาติของยูเครนเข้ากับสหภาพยุโรป และขัดต่อข้อกำหนดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
เซอร์ฮีย์ นิโคไลชุค (Serhiy Nikolaychuk) รองผู้ว่าการคนที่หนึ่งของ NBU ได้ให้สัมภาษณ์กับ Interfax-Ukraine ว่า สกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ในขณะที่หลักการสำคัญของการจัดการทุนสำรองระหว่างประเทศคือความปลอดภัย “การแกว่งตัวอย่างรุนแรงของมูลค่าสินทรัพย์เสมือนจะส่งผลกระทบในทางลบต่อขนาดโดยรวมของเงินสำรอง”
ความคิดเห็นของเขาเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มสมาชิกรัฐสภายูเครนได้ยื่นร่างกฎหมายต่อสภาเมื่อเดือนมิถุนายน เพื่ออนุญาตให้ NBU สามารถเพิ่มคริปโตเข้าไปในทุนสำรองทองคำและเงินตราต่างประเทศได้ อย่างไรก็ตาม นิโคไลชุคชี้ว่าธนาคารกลางไม่เคยได้รับการปรึกษาจากผู้สนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวเลย
อาจเป็นอุปสรรคขวางทางสู่สหภาพยุโรป
ผู้บริหารของ NBU ได้ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า การเพิ่มสินทรัพย์คริปโตเข้าไปในทุนสำรองอาจเป็นอุปสรรคต่อการรวมชาติของยูเครนเข้ากับสหภาพยุโรป “ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีจุดยืนที่ชัดเจนมาก: พวกเขาถือว่าการนำสินทรัพย์คริปโตเข้ารวมในทุนสำรองของธนาคารกลางของประเทศสมาชิก EU เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” เขากล่าว “ทุนสำรองจะต้องมีสภาพคล่อง, ปลอดภัย และได้รับการป้องกัน”
ท่าทีดังกล่าวสอดคล้องกับคำกล่าวของ คริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB ที่เคยแสดงความมั่นใจว่าคริปโตอย่าง Bitcoin จะไม่เข้าไปอยู่ในทุนสำรองของธนาคารกลางใดๆ ในสภาทั่วไปของ ECB นอกจากนี้ นิโคไลชุคยังระบุว่าการเปลี่ยนแปลงกฎหมายดังกล่าวจะขัดต่อข้อกำหนดของบันทึกทางเทคนิคภายใต้ข้อตกลงของยูเครนกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อีกด้วย
อนาคตของร่างกฎหมาย
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ดานีโล เฮตมันต์เซฟ ประธานคณะกรรมาธิการการคลังและภาษีของรัฐสภา ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Ukrainian News ว่า สภาไม่ได้มีแผนที่จะรับรองร่างกฎหมายเกี่ยวกับทุนสำรองคริปโต “เราได้พูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติเกี่ยวกับเรื่องนี้และไม่สนับสนุนขั้นตอนดังกล่าว เนื่องจากสินทรัพย์คริปโตมีความผันผวนสูง”
ทั้งนี้ เนื้อหาในร่างกฎหมายไม่ได้เป็นการบังคับ แต่เป็นการ “ให้อำนาจ” แก่ธนาคารกลางในการเข้าซื้อคริปโตสำหรับทุนสำรองของยูเครน หากธนาคารกลางเลือกที่จะทำ
ที่มา: cryptopolitan